สวัสดีครับทีมงานและผู้สนใจทุกคน
ใน Facebook Group มีคำถามว่า Passive Income คืออะไร ดียังไง ทำไมถึงมีแต่คนอยากได้
คำตอบที่แบบทุกคนเข้าใจง่าย ๆ เลยก็คือ "รายได้ที่เราจะได้มาโดยที่เราต้องลงมือทำอย่างหนักในช่วงแรก แต่ให้ดอกผลในระยะยาวไม่โดยต้องทำงานหรือในบางกรณีก็อาจจะต้องทำงานบ้างเพียงเล็กน้อย" เช่นอะไรบ้าง ยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวทุกคนมากที่สุดเลยก็คือ "ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร" ครับ ซึ่งมันเคยเป็น Passive Incom ในสมัยรุ่นปู่ ย่า ตา ทวด แต่ถ้าพูดถึงเศรษฐกิจในปัจจุบันอาจจะให้ผลตอบแทนที่น้อยมากจนไม่น่าจะนำมานับได้อีกต่อไป
แต่ Passive Income ไม่ได้มีเฉพาะดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารเท่านั้น ยังมีกิจกรรม และการลงทุนอีกหลายอย่างที่สามารถสร้าง Passive Income ให้กับเราได้ เช่น
ลงทุนในหุ้น ซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยได้สูงสุดในระยะยาว แต่การลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยงถ้าลงทุนแบบไม่มีความรู้อะไรก็อาจจะกลายเป็นหมดตัวได้
ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า เช่น ถ้าเรามีเงินไม่มากนัก ก็อาจจะซื้อคอนโด หรือบ้าน ไว้ปล่อยเช่า แต่ถ้าหากมีเงินทุนก็อาจจะสร้างเป็นอพาร์ทเมนต์ให้เช่าก็ได้
ลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญา เช่น การแต่งหนังสือ แต่งเพลง ทำงานวิจัย และพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมา และปัจจุบันนี้ การทำคลิปใน YouTube ก็ถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาชนิดหนึ่ง ซึ่ง YouTube เค้าก็จะจ่ายค่าลิขสิทธิ์นั้นให้เราในรูปแบบส่วนแบ่งค่าโฆษณานั้นเอง
ลงแรงทำงานใน Affiliate Marketing ซึ่งมันก็เหมือนกับการเป็นนายหน้าออนไลน์ประเภทหนึ่ง โดยเราเป็นคนทำให้เกิดการซื้อขายโดยมีเราเป็นตัวกลางผ่านลิ้งค์ Affiliate เช่น e-bay, Amezon, Lazada, HotelsCombined
ในยุคดิจิตอลวันนี้การสร้าง Platform สำหรับ Internet Marketing ขึ้นมา เพื่อให้คนจำนวนมากเข้ามาใช้งานและเกิดการขยายตัวด้วยตัวมันเองก็เป็น Passive Income ได้อีกแนวนึง เช่น Google, YouTube, Facebook, Instragram, Spotify เพราะพวกเราใช้ฟรีแต่จะมีโฆษณาแทรก และโฆษณาเหล่านั้นจะเป็นรายได้แบบ Passive Income
ดูเหมือนจะยิ่ง High Technology มากขึ้นทุกที เรากลับมายังสิ่งที่ใกล้ตัวและเข้าถึงทุกคนได้โดยไม่ต้องใช้เทคโนโลยีกันอีกครั้งครับ นั่นก็คือธุรกิจขายตรงครับ ต้นกำเนิดของธุรกิจขายตรงเคยอยู่ในฝั่งของ Active Income อย่างเดียวมาก่อนการขยายตัวเลยทำได้ยาก จึงได้มีผู้พัฒนานำระบบเครือข่ายเข้ามาใช้เพื่อให้เกิดการขยายตัวมากขึ้น ซึ่งมันได้กลายเป็นรายได้แบบ Passive Income ที่อยู่ใกล้ตัวเราที่สุด และมีอยู่มากมายหันไปทางไหนก็เจอแต่คุณต้องเลือกดี ๆ เพราะถ้าเราเลือกไม่ดีเราอาจจะเจอแชร์ลูกโซ่แทนครับ
Passive Income ของธุรกิจขายตรงอยู่ที่การสร้างทีมครับ และทีมงานนั้นละครับที่เป็นทรัพย์สินที่จะส่ง Passive Income ให้กับเรายิ่งมีทีมงานมากยิ่งเกิดการซื้อมาก ยิ่งมี Passive Income มาก
ในยุคนี้ธุรกิจขายตรงที่ดีจะต้องมีคุณสมบัติเหล่านี้
1. เป็นสินค้าที่เรามีความจำเป็นต้องใช้ มีคุณภาพดีและเหมาะสมกับราคา
2. ราคาเป็นธรรมไม่ได้เอาเปรียบผู้บริโภค
3. สามารถสร้าง Passive Income ให้กับทีมงานได้จริง
กลับมาพูดถึงในมุมของศรีกรุงโบรคเกอร์ ซึ่งเราเริ่มต้นด้วยการขายสินค้าประเภทประกันวินาศภัย โดยเน้นประกันภัยรถยนต์เป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันมีทั้งประกันวินาศภัยและประกันชีวิตให้เลือกใช้ครับ แน่นอนประกันรถยนต์เป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต้องใช้ และราคาก็จะเป็นมาตรฐานไม่ได้มีการเอาเปรียบผู้บริโภคแน่นอน
ตอนที่เริ่มตั้งศรีกรุงโบรคเกอร์ขึ้นมาก็ยังใช้แผนการตลาดแบบเน้นให้สมาชิกนายหน้าออกไปขายประกันภัยกันครับ ซึ่งจะมีรายได้แบบ Active Income เท่านั้น นั่นก็หมายความว่าเมื่อไหร่ที่ไม่ได้ขายประกัน หรือนายหน้าคนนั้นแข่งขันราคากับคนอื่นไม่ได้ ก็จะปิดการขายไม่ได้ และไม่มีรายได้ ทำให้การขยายตลาดได้ไม่ดีนัก
ด้วยเหตุนี้ผู้บริหารจึงได้นำแผนการตลาด MGM หรือ Member Get Member เข้ามาใช้ โดยให้ทุกคนเป็นสมาชิกของบริษัท บรรดานายหน้าประกันวินาศภัยแทนที่จะขายก็ออกไปแนะนำสมาชิกซื้อใช้ ลูกค้าก็สมัครมาสมาชิกเพื่อซื้อประกันภัยของตนเอง โดยได้ส่วนลดสำหรับสมาชิก นอกจากนั้นหากลูกค้ามีความพึงพอใจในการบริการ ทุกคนก็สามารถแนะนำคนอื่นเข้ามาเป็นสมาชิกเพื่อซื้อใช้ประกันของตนเองได้เช่นกัน ซึ่งบริษัทก็ยินดีที่จะมอบผลตอบแทนให้กับผู้แนะนำด้วย ทำให้ แผนการตลาด MGM นี้ Win Win Win ทั้ง 3 ฝ่าย โดยที่
1. สมาชิกซื้อใช้ (คนที่ไม่มีบัตรนายหน้า) ได้ส่วนลดสำหรับการซื้อประกันภัยของตนเอง และได้ค่าแนะนำหากแนะนำให้คนอื่นสมัครเป็นสมาชิกต่อจากเราและเค้าซื้อประกันของตัวเค้าเอง และนี่คือ Passive Income ของสมาชิกซื้อใช้ แต่หากต้องการรายได้ Passive Inccome มากกว่านั้น สมาชิกซื้อใช้ก็สามารถพัฒนาตนเองโดยการสอบใบอนุญาตนายหน้า ทั้งนายหน้าประกันวินนาศภัย และนายหน้าประกันชีวิต เพื่อรับรายได้เพิ่มขึ้นได้เช่นเดียวกัน
2. สมาชิกนายหน้า (คนที่มีบัตรนายหน้า) สามารถสร้างรายได้ฝั่ง Active Income ได้ด้วยนั้นก็คือการขาย แต่ถ้าเราต้องการเพิ่มพลังให้ได้ Passive Income มากขึ้นให้เปลี่ยนจากการขายมามุ่งเน้นการสร้างสมาชิกในสายงานของเรา ซึ่งเราจะได้ Passive Income ตัวที่ 2 ซึ่งก็คือ ค่าสายงานนั้นเองครับ และตัวนี้แหละครับที่จะช่วยสร้างรายได้ให้เราถึงหลักแสนต่อเดือนได้
3. ศรีกรุงโบรคเกอร์ อาจจะได้รายได้ต่อ 1 กรมธรรม์น้อยหน่อยแต่ด้วยระบบ MGM หรือ Member Get Member เป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการขยายตัวของจำนวนสมาชิก และเกิดการขยายตัวของยอดขาย ทำให้กำไรเติบโตตามมา และนี่ก็เป็น Passive Income ของศรีกรุงโบรคเกอร์
จะเห็นว่านอกเหนือจากบริษัทแล้ว ทุกคนที่แนะนำสมาชิกเข้ามาในระบบ MGM ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกซื้อใช้ หรือสมาชิกนายหน้าจะมี Passive Income เช่นเดียวกันทุกคน
Passive Income ของเราจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกที่เราแนะนำเข้ามา ยิ่งแนะนำสมาชิกเข้ามามากสมาชิกยิ่งซื้อสินค้ากันมาก เราก็จะมีรายได้มากเป็นเงาตามตัว
ซึ่งจำนวนการซื้อสินค้าที่มากมายนั้นไม่ได้เกิดจากการบังคับยอดของบริษัทแต่อย่างใดเพราะบริษัทไม่มีนโยบายนี้ แต่ว่าตัวสินค้าเป็นสิ่งที่ทุกคนจำเป็นจะต้องซื้ออยู่แล้ว ถึงแม้จะไม่ได้ซื้อกับศรีกรุงโบรคเกอร์ก็ต้องไปซื้อกับผู้ขายรายอื่นอยู่ดี แล้วมันจะดีกว่ามั้ยหากว่าการซื้อของเราสามารถสร้างรายได้ให้กับเราด้วย
ทั้งหมดนี้ยังตอบคำถามแค่ว่า Passive Income คืออะไรนะครับ ในส่วนที่ถามว่ามันดีอย่างไร และทำไมถึงมีแต่คนที่อยากได้
ข้อดีอย่างแรกเลยครับคือ แม้ในตอนเริ่มต้นเราจะต้องทำงานหนักแต่รายได้ต่ำตามธรรมชาติของ Passive Income ทุกชนิด แต่หากเราอดทนและฝ่าฟันจุดนี้ไปได้รายได้ของเราจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี เริ่มต้นจากหลักร้อยไปจนถึงหลักแสนต่อเดือน คาดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าน่าจะมีคนทำได้ถึงหลักล้านต่อเดือน สาเหตุเพราะเป็นสินค้าที่ต้องซื้อซ้ำ คนเก่าก็ต้องซื้อคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาก็ต้องซื้อ
ข้อดีที่่สองก็คือ การเติบโตของรายได้ไม่ได้มีขีดจำกัด ตามนโยบาย "เติบโตไร้ขีด" ของศรีกรุงโบรคเกอร์ ไม่มีขีดจำกัดอย่างไร? ลองเปรียบเทียบกับการขายประกันภัยรถยนต์ที่มีรูปแบบรายได้ Active Income เรามีมือแค่สองมือ มีเวลาแค่วันละ 24 ชั่วโมงเท่ากันทุกวัน แม้การขายจะทำรายได้ถึงหลักแสนต่อเดือนได้เช่นกันก็จริง แต่ด้วยข้อจำกัดของจำนวนมือ และจำนวนเวลาที่เรามีทำให้การทำงานแบบ Active Income มีเพดานรายได้และต้องทำงานตลอดเวลา
แต่หากเราสร้างรายได้ด้วยการแนะนำสมาชิกที่ต้องการสร้างรายได้เช่นเดียวกับเราเข้ามาในทีม แน่นอนว่าเค้าอยากมีรายได้เค้าก็ต้องขยายทีมของเค้าเช่นเดียวกัน และมันก็จะส่งผลให้รายได้ของเราเติบโตขึ้นด้วยอย่างไม่มีขีดจำกัด ในขณะที่ทุกคนคือทีมงานไม่ใช่ลูกค้าโดยธรรมชาติเค้าก็จะต้องดูแลการซื้อประกันด้วยตนเองอยู่แล้ว กลายเป็นการช่วยกันทำงานเป็นทีมและส่งผลให้ไม่มีขีดจำกัดรายได้
ข้อดีที่สามคือ เราจะมีรายได้แม้ในวันที่เราไม่สามารถทำงานได้ ไม่ว่าเราจะทำงานเพื่อมีรายได้แบบ Active Income ในอาชีพใด ๆ ก็ตาม หากวันนึงเราไม่สามารถทำงานได้ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยก็ดี หรือด้วยความชราก็ดี รายได้ของเราก็จะหยุดไปด้วย แต่ Passive Income นี้จะช่วยประคองชีวิตของเราให้ต่อสู้อุปสรรคนั้นได้ในวันที่ร่างกายของเราไม่พร้อมอีกต่อไป
ข้อดีที่สี่คือ เป็นรายได้ที่เป็นมรดกให้ทายาทได้ เปรียบเทียบอย่างนี้ครับ รายได้ในส่วน Active Income ทายาทของเราจะได้ไปก็ต่อเมื่อเค้าก็ต้องทำงานนั้นเช่นเดียวกัน แต่ถ้าหากเค้าไม่ชอบในมรดกที่เราให้แล้วไม่ทำต่อเค้าก็ไม่สามารถเก็บรายได้จากมรดกนั้นได้ครับ
แต่มรดกที่เป็น Passive Income แม้ว่าทายาทของเราจะไม่ชอบงานนั้น และไม่ทำอะไรเลย Passive Income นั้นก็ยังคงส่งรายได้ให้เค้าอยู่
ยกตัวอย่างเช่นในธุรกิจของศรีกรุงโบรคเกอร์ หากเรามาถึงจุดที่มี Passive Income แล้วและเราเสียชีวิตลง ทายาทของเราจะมารับรายได้ในรหัสของเราต่อ แต่หากเค้าไม่ชอบไม่อยากทำงานด้านนี้ สิ่งที่เค้าต้องทำก็เพียงแค่มีบัตรนายหน้าและรักษาบัตรนายหน้าเอาไว้เพื่อรับรายได้อย่างต่อเนื่องเท่านั้นเอง ส่วนการดำเนินชีวิตก็สามารถไปทำในสิ่งที่ชอบต่อไปได้เลย โดยที่ฝั่งศรีกรุงก็ยังคงมีรายได้อยู่อย่างต่อเนื่อง
ข้อดีข้อที่ห้า ถ้าเราอยากได้ Passive Income หน้าที่หลักของเราไม่ใช่การขายประกัน แต่เป็นการชวนคนเข้ามาร่วมทำธุรกิจในระบบและแต่ละคนก็แค่ซื้อประกันใช้เองเท่าที่ตัวเองอยากใช้เท่านั้นเองครับ ไม่ต้องรักษายอดอะไรกันเลย ซึ่งลักษณะงานแบบนี้เราสามารถทำควบคู่ไปกับหน้าที่หลักของเราได้เลย มีงานประจำอยู่ก็ทำควบคู่ไปได้ เราชวนคนตอนพักกลางวันได้ครับ เป็นพ่อบ้านแม่บ้านเลี้ยงลูกเล็กเต็มเวลาก็ทำควบคู่ไปได้ เราโทรชวนเพื่อนตอนลูกหลับกลางวันได้ครับ และมีตัวอย่างให้เห็นมากมายที่คนที่มีหน้าที่จากงานประจำรัดตัว หรือเลี้ยงลูกไปทำงานไปเค้าก็ประสบความสำเร็จได้ ขอเพียงแค่แบ่งเวลาให้ได้เท่านั้นเองครับ
และข้อดีสุดท้าย Passive Income ช่วยให้เราได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนในโลกนี้จะได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำกันจริง ๆ โดยเฉพาะคนที่ยังไม่พร้อมในด้านสถานะการเงินเพราะว่าเราต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้องทั้งของตนเองและคนในครอบครัว แต่ถ้าเรามี Passive Income ละ แปลว่า เรามีรายได้ และเราจะมีเวลาเหลือ เราจึงสามารถใช้เวลาที่เหลือนั้นไปทำในสิ่งที่อยากทำได้โดยไม่ต้องกังวลกับรายได้
ส่วนข้อเสียของ Passive Income มีข้อเดียวครับ คือ มันจะไม่ได้มาง่าย ๆ เราจะต้องมีความอยากได้มันมากพอ มีความตั้งใจทำมากพอ และลงมือทำมากพอ เราถึงจะได้มันมาครับ