เบื้องหลังราคา ถูกกว่า ของประกันรถยนต์ ที่สมาชิกศรีกรุงโบรคเกอร์เท่านั้นที่รู้
- P'MEN
- 16 ก.ค.
- ยาว 4 นาที

เรากำลังจ่ายค่าเบี้ยประกันรถยนต์แพงเกินไปอยู่หรือเปล่า?
นี่คงเป็นคำถามที่หลายคนสงสัยเวลาหาประกันรถยนต์ที่ทั้งถูกและคุ้มสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนขับเก๋าหรือมือใหม่เพิ่งมีรถ การเลือกประกันรถยนต์ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะมีตัวเลือกเยอะ ทั้งเรื่องราคาและความคุ้มครองที่ต่างกันไป
หลายคนอาจจะคิดว่าเพียงแค่มีข้อมูล "ยี่ห้อ รุ่น ปี" ก็สามารถตรวจสอบราคาประกันรถยนต์จากหลายๆ แห่งได้แล้ว ตัวพี่เม่นเองในฐานะผู้ซื้อประกันก็เคยคิดแบบนี้เช่นกัน แต่เมื่อเปลี่ยนบทบาทมาเป็นนายหน้าประกันภัย ทำให้รู้ว่าข้อมูลเท่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะหาประกันรถยนต์ที่ทั้งประหยัดและคุ้มค่าได้เลย
หากต้องการประกันรถยนต์ที่ราคาถูกและคุ้มค่า ควรให้ความสำคัญกับขั้นตอนนี้นะครับ "เบื้องหลังราคา ถูกกว่า ของประกันรถยนต์ ที่สมาชิกศรีกรุงโบรคเกอร์เท่านั้นที่รู้" บทความนี้ค่อนข้างยาว แนะนำให้บันทึกและอ่านในคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตเพื่อความสะดวกที่สุด เพราะจะมีการเปิดเผยเคล็ดลับในการหาแพคเกจประกันภัยที่คุ้มค่าที่สุด อ่านให้จบ เตรียมตัวให้พร้อม และค้นหาข้อมูลให้มาก ๆ เดี๋ยวพี่เม่นจะมาแชร์เคล็ดลับให้ครับ
องค์ประกอบที่ทำให้ได้ประกันรถยนต์ในราคาที่คุ้มค่า
1 ซื้อประกันภัยกับผู้ที่มีใบอนุญาตเท่านั้น
การซื้อประกันภัยเป็นวิธีการป้องกันความเสี่ยงที่สำคัญ เราควรเริ่มต้นป้องกันตั้งแต่ขั้นตอนการซื้อประกันภัย โดยเลือกซื้อจากผู้ที่มีใบอนุญาตเท่านั้น เพราะบุคคลเหล่านี้ควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับประกันภัยจากการสอบใบอนุญาต และในกรณีที่เกิดการทุจริต เราจะสามารถระบุได้ว่าควรดำเนินการกับผู้ใด
1.1 ชนิดใบอนุญาต
ใบอนุญาตในการขายประกันภัยมีทั้งหมด 4 ประเภท หากบุคคลต้องการขายประกันใด ๆ จำเป็นต้องมีใบอนุญาตที่ตรงกับประเภทของประกันนั้น ๆ
การขายประกันชีวิต : จำเป็นต้องมีใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตหรือนายหน้าประกันชีวิต
การขายประกันวินาศภัย : หมายถึงการขายประกันทุกประเภทที่ไม่ใช่ประกันชีวิต เช่น ประกันรถยนต์ ประกันอัคคีภัย ประกันอุบัติเหตุ และประกันการเดินทาง ซึ่งจำเป็นต้องมีใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันวินาศภัยหรือนายหน้าประกันวินาศภัย
1.2 วิธีตรวจสอบใบอนุญาต
คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ของ คปภ. ได้ง่าย ๆ โดยกรอกชื่อและนามสกุลของตัวแทนหรือนายหน้าประกันภัย จากนั้นคุณจะทราบได้ว่าพวกเขามีใบอนุญาตในปัจจุบันหรือไม่ รวมถึงข้อมูลใบอนุญาตที่เคยได้รับทั้งหมด ตั้งแต่ใบแรกจนถึงใบที่ขาดอายุและใบอนุญาตปัจจุบัน
ข้อมูลใบอนุญาตสามารถบอกอะไรเราได้บ้าง
เขาเริ่มทำอาชีพนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ และทำมานานแค่ไหน
เขาทำงานกับหน่วยงานหรือบริษัทใด
เขามีการเปลี่ยนบริษัทบ่อยหรือไม่
เขาให้ความสำคัญกับการรักษาใบอนุญาตของตัวเองมากน้อยเพียงใด
2 เงื่อนไขเวลาที่เหมาะสม
2.1 ระยะเวลาเริ่มหาข้อมูลที่เหมาะสม
บางคนไม่สนใจรายละเอียดและมองหาประกันรถยนต์ในช่วงเวลาที่ใกล้หมดอายุเกินไป เหลือเวลาเพียงไม่กี่วันก่อนที่ประกันรถยนต์จะหมดอายุ ซึ่งอาจทำให้ไม่มีเวลาพอที่จะคัดกรองข้อมูลที่มีประโยชน์ที่สุดสำหรับเราได้ เพราะการค้นหาข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือหน่วยงานอื่นก็ต้องใช้เวลาในกระบวนการทำงานของพวกเขาด้วย
บางคนที่ลงลึกรายละเอียดมากเกินไปและเช็คราคาล่วงหน้านานถึง 6 เดือน หรือ 3 เดือน อาจไม่ได้ช่วยให้เราได้ประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมและคุ้มค่าอย่างมีนัยสำคัญ อาจกลายเป็นการเสียเวลาทำงานเพิ่มขึ้น เพราะสุดท้ายเราก็ต้องยืนยันข้อมูลอีกครั้งก่อนซื้อประกัน เนื่องจากใบเสนอราคาของทุกที่จะมีอายุการใช้งานของมันเอง
เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มเช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์ คือ 30 วันก่อนประกันที่ใช้อยู่จะครบอายุเนื่องจาก
เราจะได้รับราคาที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งสามารถใช้ในการตัดสินใจซื้อประกันภัยได้อย่างมั่นใจ เพราะใบเสนอราคามักมีอายุ 30 วัน
เรามีสิทธิ์ในการตรวจสอบราคาในทุกแง่มุม เช่น
สอบถามราคาจากบริษัทประกันภัยใหม่ สามารถตรวจสอบเบี้ยประกันภัยได้ทุกเวลา (ทำได้ทันที)
สอบถามราคาจากบริษัทประกันภัยเดิม แต่เปลี่ยนช่องทางจำหน่าย (งานโอนโค้ด) สามารถตรวจสอบราคาได้ไม่เกิน 30 วันก่อนที่กรมธรรม์เดิมจะหมดอายุ (ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ)
เปรียบเทียบเบี้ยประกัน (Match เบี้ย) โดยใช้ใบเตือนต่ออายุที่มีประวัติดีจากบริษัทเดิม เพื่อค้นหาบริษัทประกันใหม่ที่สามารถให้ข้อเสนอดีเท่ากันหรือดีกว่า (ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ)
มีระยะเวลาให้นายหน้าประกันวินาศภัยจะสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยต่าง ๆ ของผู้เอาประกันภัย เพื่อคัดกรองและค้นหาแพคเกจที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
มีช่วงเวลาที่ผู้เอาประกันภัยสามารถพิจารณาและประเมินความคุ้มค่าในการเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด
ทำให้การซื้อประกันภัยเป็นไปอย่างทันเวลาและเหมาะสม หากซื้อช้าเกินไปอาจสูญเสียผลประโยชน์ โดยเฉพาะประกันรถยนต์ประเภท 1
2.2 ระยะเวลาซื้อประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสม
การซื้อประกันล่วงหน้านานเกินไปก็อาจจะเสียประโยชน์ การซื้อประกันใกล้วันหมดอายุมากเกินไปก็ไม่ดี และการซื้อประกันหลังจากที่กรมธรรม์เดิมหมดอายุไปแล้วก็ไม่ควร แต่ละช่วงเวลามีข้อเสียอย่างไร ลองมาดูรายละเอียดกันครับ
ข้อเสียจากการซื้อประกันรถยนต์ล่วงหน้านานเกินไป
การซื้อประกันล่วงหน้าที่นานเกินไป หมายถึง การซื้อล่วงหน้าเกิน 30 วันก่อนที่กรมธรรม์เดิมจะหมดอายุ อาจทำให้เราสูญเสียผลประโยชน์บางอย่างโดยไม่รู้ตัว
เงินไปอยู่กับผู้ขายประกันโดยที่เรายังไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันภัย
พลาดโอกาสในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเบี้ยโอนโค้ดและ Match เบี้ย ซึ่งอาจทำให้เราได้รับผลประโยชน์ที่คุ้มค่ามากขึ้น
การซื้อประกันภัยล่วงหน้าโดยเปลี่ยนบริษัทประกันภัยใหม่ อาจทำให้เราสูญเสียประวัติดีซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในประกันรถยนต์โดยไม่รู้ตัว
ซื้อประกันภัยล่วงหน้ากับบริษัทเดิม หากมีการเคลมในกรมธรรม์เดิม ก่อนที่กรมธรรม์ใหม่จะเริ่มคุ้มครอง บริษัทประกันภัยยังสามารถเรียกเก็บเบี้ยประกันภัยเพิ่มได้ เนื่องจากการคำนวณเบี้ยประกันภัยจะพิจารณาจากประวัติการเคลมในช่วง 1 ปีที่กรมธรรม์คุ้มครอง
อาจเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เราไม่สามารถใช้รถยนต์คันนี้ได้อีก เช่น การขายรถยนต์ไปแล้ว
หากต้องการผ่อนเงินสดล่วงหน้า แนะนำให้ผ่อนกับตนเอง และฝากเข้าบัญชีของตนเอง จากนั้นนำเงินสดทั้งก้อนไปซื้อประกันภัยเพื่อรับผลประโยชน์ส่วนลดจากผู้จำหน่ายที่มากกว่า
ข้อเสียจากการซื้อประกันรถยนต์ล่วงหน้ากระชั้นชิดเกินไป
การซื้อประกันรถยนต์กระชั้นชิดเกินไป หมายถึง การซื้อล่วงหน้า 3-1 วัน ก่อนกรมธรรม์เดิมจะหมดอายุ อาจจะทำให้เรามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
อาจมีเหตุการณ์บางอย่างที่เป็นอุปสรรคทำให้เราไม่สามารถซื้อประกันภัยล่วงหน้าได้ทันเวลา หรืออาจลืมซื้อประกันภัย
อาจมีช่วงเวลาที่ไม่ได้รับความคุ้มครองเต็มรูปแบบ ในกรณีที่เป็นประกันภัยประเภท 1 และมีการเปลี่ยนบริษัทประกันภัย จะต้องมีกระบวนการถ่ายภาพรถยนต์ ซึ่งในตอนแรกเราจะได้รับความคุ้มครองประเภท 3 ก่อน แล้วจึงปรับเป็นความคุ้มครองประเภท 1 เมื่อบริษัทประกันภัยได้รับภาพถ่ายรถยนต์ครบถ้วนแล้ว
อาจเกิดช่วงที่ไม่มีความคุ้มครองได้ ในกรณีที่เป็นประกันภัยประเภท 1 และมีการเปลี่ยนบริษัทประกันภัย แล้วบริษัทใหม่พิจารณาไม่อนุมัติการรับประกัน
อาจสูญเสียสิทธิ์ในการเคลมรอยแผล ในกรณีประกันภัยประเภท 1 หากมีการเปลี่ยนบริษัทประกันภัย และเพิ่งทราบผลการพิจารณาว่าจะติด Remark ความเสียหายที่มีอยู่ก่อนทำประกันภัย หลังจากที่กรมธรรม์เดิมสิ้นสุดความคุ้มครองแล้ว
ข้อเสียจากการซื้อประกันรถยนต์หลังจากกรมธรรม์เดิมสิ้นสุดความคุ้มครอง
เกิดช่องว่างที่ทำให้รถของเรามีความเสี่ยงที่จะไม่มีประกันภัยรถยนต์คุ้มครอง
ในกรณีที่เป็นประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 แม้ว่าจะต่อประกันกับบริษัทประกันภัยเดิม ก็จำเป็นต้องถ่ายภาพใหม่ทุกครั้ง หากมีร่องรอยความเสียหายก่อนที่จะทำประกันภัยกรมธรรม์ใหม่ที่ยังไม่ได้ออกใบเคลม จะมีการใส่ Remark ในชิ้นส่วนนั้นด้วย
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการชำระเบี้ยประกันภัยรถยนต์
15 วัน ก่อนกรมธรรม์เดิมสิ้นสุดความคุ้มครอง :
ในกรณีที่เป็นประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 และมีการเปลี่ยนไปใช้บริษัทประกันภัยใหม่ เนื่องจากประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะมีขั้นตอนการถ่ายภาพรถและการพิจารณาจากบริษัทประกันภัย หากมีการติด Remark หรือถูกปฏิเสธการรับประกัน จะมีเวลาในการแก้ไขปัญหาได้ทันเวลา
7 วัน ก่อนกรมธรรม์เดิมสิ้นสุดความคุ้มครอง :
เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอุปสรรคบางประการที่อาจทำให้เราไม่สามารถต่อประกันภัยได้
กรณีการต่ออายุประกันทุกประเภทกับบริษัทประกันภัยเดิม
กรณีซื้อประกันภัยรถยนต์ใหม่ประเภท 2+, 3+ และ 3 จะไม่มีขั้นตอนการถ่ายภาพรถและการพิจารณารับประกันภัย
3 เอกสารครบถ้วนเพื่อประโยชน์สูงสุด
ดังที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่า ข้อมูลเพียง "ยี่ห้อ รุ่น ปี" ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ค้นหาแพคเกจประกันภัยที่คุ้มค่าที่สุดได้ ยังมีเอกสารอื่น ๆ อีกหลายอย่างที่ใช้ในการพิจารณาเลือกแพคเกจประกันภัย
3.1 รายการจดทะเบียนรถยนต์
เอกสารนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการซื้อประกันภัยรถยนต์ เพราะใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงความถูกต้องในการซื้อประกันภัย โดยไม่มีหลักฐานทางราชการใดที่มีข้อมูลถูกต้องกว่ารายการจดทะเบียนแล้ว
การซื้อประกันภัยรถยนต์โดยไม่ใช้รายการจดทะเบียนรถยนต์เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล อาจทำให้เรากรอกข้อมูลในสาระสำคัญผิดพลาด ส่งผลให้รถไม่ได้รับความคุ้มครองตามที่ควรได้รับ

3.2 กรมธรรม์ประกันภัยในปีปัจจุบัน
หากต้องการข้อเสนอที่ดีที่สุด ไม่ควรหวงข้อมูลไว้ แต่ควรแสดงสิ่งที่ดีที่สุดที่เรามี นายหน้าประกันภัยต้องการงานเช่นกัน เขาจะสามารถหาข้อเสนอที่ดีหรือดีกว่าที่มีให้เราพิจารณาได้ โดยกรมธรรม์เดิมมีข้อมูลมากมายที่จะช่วยให้นายหน้าประกันภัยวางแผนการเสนอราคาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น

3.3 ใบเตือนต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยในปีปัจจุบัน
เอกสารนี้มีอำนาจในการต่อรองมากกว่ากรมธรรม์เดิม เพราะเป็นการยืนยันประวัติดีจากบริษัทประกันภัยเดิม ทำให้นายหน้าประกันภัยต้องเพิ่มความพยายามในการหาแพคเกจที่ดีที่สุดให้กับผู้เอาประกันภัย โดยเฉพาะการขอให้บริษัทประกันภัยอื่น Match เบี้ยประกันภัย

3.4 พ.ร.บ. รถยนต์ฉบับปีปัจจุบัน
บางคนอาจสงสัยว่า พ.ร.บ. รถยนต์มีความสำคัญต่อการเช็คเบี้ยประกันภัยอย่างไร? สำหรับนายหน้าประกันภัยที่คำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของผู้เอาประกันภัย จะเสนอแนะให้ผู้เอาประกันภัยเลือกใช้ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจและ พ.ร.บ. รถยนต์จากบริษัทเดียวกัน และให้มีช่วงเวลาคุ้มครองที่ตรงกันเสมอ
เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการที่ผู้เอาประกันภัยลืมต่อ พ.ร.บ. จนนำไปสู่ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดหลักแสนถึงหลักล้านบาท เนื่องจากประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจในส่วนความรับผิดต่อบุคคลภายนอก จะเริ่มมีผลเมื่อความคุ้มครองจาก พ.ร.บ. ถูกใช้เต็มวงเงินแล้ว

3.5 เอกสารขอเช็คเบี้ยโอนโค้ด
หากข้อมูลเบื้องต้นที่ผู้เอาประกันให้มาตรงตามเงื่อนไขที่สามารถขอเช็คเบี้ยประกันภัยโอนโค้ดได้ นายหน้าประกันภัยจะแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลก่อน เพื่อพิจารณาหาทางเลือกที่ดีที่สุด
การเช็คราคาโอนโค้ดของแต่ละบริษัทประกันภัยมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน บางบริษัทสามารถให้ราคาได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่บางบริษัทอาจต้องรอกระบวนการภายใน 7-14 วัน และบางบริษัทต้องรอให้กรมธรรม์เดิมหมดอายุก่อนจึงจะพิจารณาให้ราคา
การเช็คเบี้ยประกันภัยโอนโค้ด นายหน้าประกันภัยจำเป็นต้องได้รับหนังสือจากผู้เอาประกันและแสดงเป็นหลักฐานต่อบริษัทประกันภัยเท่านั้น จึงจะสามารถพิจารณาเสนอราคาได้
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการส่งเอกสารไปแล้ว ก็ไม่ได้เป็นการผูกมัดว่าผู้เอาประกันภัยจะต้องซื้อประกันกับนายหน้าคนนี้เท่านั้น

3.6 ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์
ปัจจุบัน รถยนต์บางประเภท เช่น รถไฟฟ้า และรถสันดาปป้ายแดง ต้องทำประกันภัยแบบระบุผู้ขับขี่ทุกคัน โดยจะบังคับใช้กับรถสันดาปเก่าที่มีอยู่ในระบบตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป ซึ่งสามารถระบุผู้ขับขี่ได้ 1-5 คน
การเสนอราคาประกันภัยในปัจจุบันจำเป็นต้องขอใบอนุญาตขับขี่ของทุกคนที่จะขับรถคันนี้ด้วย เบี้ยประกันภัยรถยนต์จะถูกหรือแพงนั้น หนึ่งในปัจจัยมาจากพฤติกรรมการขับขี่ที่ปรากฏในแต่ละใบอนุญาต เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกต้องและไม่ผิดเงื่อนไข แนะนำให้ส่งใบขับขี่ทั้งหมดไปพิจารณาตั้งแต่เริ่มต้น

3.7 ภาพถ่ายรถยนต์คร่าว ๆ
โดยทั่วไปแล้ว หากเราใช้รถรุ่นที่เป็นที่นิยมและใช้งานในชีวิตประจำวัน ก็ไม่จำเป็นต้องส่งภาพถ่ายรถประกอบ แต่หากเป็นรถที่มีการดัดแปลงจากมาตรฐานที่ออกจากโรงงานผลิต ความเสี่ยงที่บริษัทประกันต้องรับก็จะเปลี่ยนไปด้วย ส่งผลให้เบี้ยประกันภัยแตกต่างกัน แนะนำให้ถ่ายภาพรถโดยรวมเพื่อให้บริษัทประกันภัยเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยในการพิจารณาเสนอเบี้ยประกันภัยได้ตั้งแต่แรกเริ่ม และทำให้การประสานงานรวดเร็วยิ่งขึ้น

4 ข้อมูลเสริมเพื่อให้โฟกัสได้ตรงจุด
ในหัวข้อที่ 2 เอกสารที่จำเป็นต้องใช้นั้นมีจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้นายหน้าประกันภัยสามารถเสนอแพคเกจประกันภัยที่คุ้มค่าที่สุดให้กับผู้เอาประกันภัยได้ โดยความคุ้มค่านี้เราจะพิจารณาในสองเวลา คือ วันที่ซื้อประกันภัย และ วันที่ใช้ประกันภัย
4.1 ต้องการใช้ประกันภัยรถยนต์ประเภทไหน
ก่อนที่จะเสนอราคาประกันภัยรถยนต์ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้เอาประกันภัยต้องการประกันภัยรถยนต์ประเภทใด และมีความเข้าใจในขอบเขตความคุ้มครองของแผนประกันภัยที่ต้องการหรือไม่

จากตารางที่เปรียบเทียบความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ สามารถสรุปความเหมือนและความแตกต่างของประกันภัยรถยนต์แต่ละชั้นได้ดังนี้
ความคุ้มครองที่เหมือนกันของประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท (3, 3+, 2+, 1) ได้แก่
คุ้มครองคู่กรณี (ชีวิต/ทรัพย์สิน)
คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล (คนขับและผู้โดยสารในรถเรา)
ความคุ้มครองของรถยนต์คันเอาประกันภัย ในประกันภัยแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันคือ
ชั้น 3 ไม่ได้ให้ความคุ้มครองสำหรับตัวรถของเราเลย
ชั้น 3+ และ 2+ จะให้ความคุ้มครองรถของเราเมื่อมีการชนและมีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบก
ประกันชั้น 1 จะคุ้มครองรถของเราในแทบทุกกรณี แต่ในบางกรณีอาจมีค่าเสียหายส่วนแรก (Excess)
ความคุ้มครองในกรณีสูญหายหรือไฟไหม้จะมีเฉพาะสำหรับประกันชั้น 2+ และชั้น 1 เท่านั้น
ความคุ้มครองภัยจากธรรมชาติ เช่นน้ำท่วม
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ครอบคลุมส่วนนี้อยู่แล้ว
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองส่วนนี้เฉพาะในบางแพคเกจเท่านั้น
4.2 ใช้งานรถคันนี้ในพื้นที่ไหนเป็นประจำ
เราอาจสงสัยว่าทำไมนายหน้าประกันภัยต้องถามว่าใช้รถในพื้นที่ไหนเป็นประจำ เหตุผลคือประกันภัยรถยนต์สำคัญตรงที่เมื่อซื้อแล้วต้องใช้งานได้สะดวก
การที่นายหน้าประกันภัยถามว่าเราใช้รถในพื้นที่ไหนบ่อยๆ เป็นเพราะว่าหากเกิดอุบัติเหตุและต้องซ่อมรถ ควรมีศูนย์หรืออู่ที่สามารถนำรถเข้าไปซ่อมได้ ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกศูนย์หรืออู่จะรับงานเหมือนกัน นายหน้าประกันภัยจึงควรแนะนำศูนย์หรืออู่ที่เหมาะสมในพื้นที่ของผู้เอาประกันภัยด้วย
ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบศูนย์หรืออู่ในพื้นที่ว่าเป็นอู่ในเครือของบริษัทประกันภัยใดบ้าง และเสนอราคาเฉพาะบริษัทประกันภัยที่มีศูนย์หรืออู่ในเครือในพื้นที่ของผู้เอาประกันภัยเท่านั้น
4.3 สถานะความเป็นเจ้าของ
เราอาจมีคำถามในใจว่า "ฉันจะซื้อประกันภัยรถยนต์ จะถามทำไมว่ารถคันนี้เป็นของใคร?" เหตุผลที่ต้องถามก็เพราะมีความเกี่ยวข้องกับ 2 ประเด็นในกระบวนการซื้อประกันภัยรถยนต์ ซึ่งนายหน้าประกันภัยจะอธิบายเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องให้ทราบก่อนออกใบเสนอราคา
4.3.1 เงื่อนไขการระบุชื่อผู้เอาประกันภัย
ผู้ที่กำลังติดต่อเพื่อซื้อประกันภัยรถยนต์ในขณะนี้อาจไม่ใช่ "ผู้ครอบครอง/ผู้ถือกรรมสิทธิ์" ที่ระบุไว้ในรายการจดทะเบียน ซึ่งชื่อดังกล่าวจะใช้เป็นชื่อ "ผู้เอาประกันภัย" เช่น รถจดทะเบียนในชื่อพ่อแม่ แต่ผู้ขับขี่และผู้จ่ายเงินคือลูก นายหน้าประกันภัยจะสามารถอธิบายได้ว่า "ผู้เอาประกันภัย" ที่ระบุในกรมธรรม์ควรจะเป็นใคร
4.3.2 เงื่อนไขการชำระเบี้ยประกันภัย
การซื้อประกันภัยผ่านนายหน้าจำเป็นต้องมีการป้องกันการทุจริตในระหว่างกระบวนการซื้อขาย ดังนั้นจึงมีเงื่อนไขการชำระเบี้ยประกันภัยที่เข้มงวด นายหน้าประกันภัยจึงต้องสอบถามว่าผู้ที่เสนอเบี้ยประกันภัยเป็นเจ้าของรถคันที่ทำประกันหรือไม่ เนื่องจากมีเงื่อนไขเกี่ยวกับการชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิตหรือการผ่อนชำระด้วยเงินสด
4.4 ความสะดวกในการชำระเบี้ยประกันภัย
หากเราซื้อประกันรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยตัวเอง จะไม่มีข้อจำกัดในเรื่องการชำระเงิน เพราะระบบถูกออกแบบมาเพื่อให้การชำระเงินเป็นไปอย่างสะดวกที่สุด พี่เม่นจะอธิบายไว้ในตอนท้ายของบทความว่าการซื้อประกันภัยรถยนต์ด้วยตนเองผ่านช่องทางออนไลน์และช่องทางนายหน้าประกันภัยมีความแตกต่างกันอย่างไร
เนื่องจากเงื่อนไขการชำระเงินของบริษัทประกันภัยแต่ละแห่งมีความแตกต่างกัน หากนายหน้าประกันภัยสอบถามข้อมูลนี้จากผู้เอาประกันภัยล่วงหน้า จะสามารถจัดแพคเกจประกันภัยที่เหมาะสมและสะดวกต่อผู้เอาประกันภัยได้มากที่สุด
4.4.1 การชำระเบี้ยด้วยเงินสด
ใครก็สามารถชำระเบี้ยประกันภัยได้ แต่เพื่อป้องกันการทุจริต หากผู้เอาประกันภัยต้องการชำระเบี้ยประกันภัยด้วยเงินสด ควรทำการชำระที่สำนักงานสาขาของโบรคเกอร์ประกันภัยหรือบริษัทประกันภัยเท่านั้น และควรขอใบเสร็จรับเงินไว้เป็นหลักฐานเสมอ
4.4.2 การชำระเบี้ยด้วยการโอนเงิน
ใครจะเป็นผู้โอนเงินก็ได้ แต่เพื่อป้องกันการทุจริต ควรจำไว้ว่าเราควรโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของโบรกเกอร์ประกันภัย หรือบริษัทประกันภัยเท่านั้น ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล ไม่ควรโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลธรรมดาโดยเด็ดขาด และควรเก็บสลิปการโอนเงินนี้ไว้เป็นหลักฐานเสมอ
4.4.3 การชำระเบี้ยด้วยบัตรเครดิต (เต็มจำนวน)
โดยปกติสามารถชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิตของทุกธนาคารได้ แต่เพื่อป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดจากนายหน้าประกันภัยที่รับเงินสดหรือโอนเงินจากผู้เอาประกันเข้าบัญชีตนเอง แล้วใช้บัตรเครดิตของตนเองในการชำระเบี้ยประกัน จึงกำหนดเงื่อนไขว่าต้องใช้บัตรเครดิตของผู้เอาประกันเอง หรือของครอบครัวที่มีนามสกุลเดียวกันเท่านั้น โดยการชำระจะต้องเข้าผ่านโบรคเกอร์ประกันภัยหรือบริษัทประกันภัยโดยตรง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท
4.4.4 การชำระเบี้ยด้วยบัตรเครดิต (ผ่อนดอกเบี้ย 0%)
โปรโมชั่นพิเศษนี้สามารถใช้ได้เฉพาะกับบางบริษัทประกันภัย บัตรเครดิตจากบางธนาคาร และระยะเวลาผ่อนบัตรเครดิตแบบดอกเบี้ย 0% ก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละธนาคาร
เพื่อป้องกันการทุจริต นายหน้าประกันภัยจะไม่สามารถรับเงินสดหรือรับโอนเงินจากผู้เอาประกันเข้าบัญชีตนเองแล้วใช้บัตรเครดิตของตนผ่อนประกันภัยได้ จึงมีเงื่อนไขว่าต้องใช้บัตรเครดิตของผู้เอาประกันเอง หรือของครอบครัวที่มีนามสกุลเดียวกันเท่านั้น โดยการผ่อนประกันภัยจะทำผ่านโบรคเกอร์ประกันภัยหรือบริษัทประกันภัยโดยตรง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท
4.4.5 การชำระด้วยการผ่อนเงินสด (ดอกเบี้ย 0%)
ประกันภัยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้หลัก Cash Before Cover ซึ่งหมายถึง ความคุ้มครองจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้ว นั่นหมายความว่าไม่สามารถผ่อนชำระได้ และผู้จำหน่าย (ตัวแทน / นายหน้า / โบรคเกอร์) ก็ไม่มีอำนาจในการให้บริการผ่อนชำระด้วยตนเองเนื่องจากอยู่นอกเหนือขอบเขตใบอนุญาตที่ถืออยู่ การผ่อนประกันภัยที่พบเห็นจึงต้องทำผ่านตัวกลางที่ทำธุรกิจสินเชื่อ เช่น บัตรเครดิต หรือลิสซิ่ง
สำหรับการผ่อนประกันเงินสดผ่านลิสซิ่ง ผู้ทำสัญญาเงินกู้ต้องมีส่วนได้เสียในทรัพย์ เช่น เป็นผู้ครอบครองหรือถือกรรมสิทธิ์ในรถ โดยที่ผู้ให้บริการสินเชื่อจะได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการผ่อน ซึ่งแต่ละช่องทางจำหน่ายอาจมีเงื่อนไขแตกต่างกัน
เช่น หากเป็นสมาชิกศรีกรุงโบรคเกอร์ จะได้รับส่วนลดในการซื้อประกันภัยในราคาสมาชิก การผ่อนประกันเงินสดจะทำผ่านลักกี้ลิสซิ่งที่ให้บริการสินเชื่อ โดยดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่ลักกี้ลิสซิ่งได้รับมาจากส่วนลดสมาชิกที่ผู้เอาประกันภัยควรได้รับ แต่ถูกโอนไปให้ลักกี้ลิสซิ่งแทน เพื่อแลกกับการผ่อนประกันเงินสดแบบ 0% โดยไม่ได้รับส่วนลดใด ๆ
ข้อเสนอแนะในการผ่อนประกันเงินสดให้ได้รับประโยชน์สูงสุด
คือ การผ่อนประกันล่วงหน้ากับตนเอง โดยฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารของตนเอง สะสมทุกเดือนเป็นเวลา 1 ปี เมื่อถึงเวลาซื้อประกันภัยตอนสิ้นปี เราจะได้รับส่วนลดจากช่องทางจำหน่ายมากกว่า

5 การตัดสินใจเลือกประกันภัยรถยนต์
หากเราเลือกประกันภัยรถยนต์โดยพิจารณาเฉพาะเบี้ยประกันภัยเพียงอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ เมื่อถึงเวลาซื้อประกันภัย เราอาจคิดว่าได้จ่ายเบี้ยประกันภัยในราคาถูก แต่เมื่อถึงเวลาต้องใช้ประกันภัยจริง ๆ อาจพบว่าที่จริงแล้วเราได้จ่ายแพงกว่าที่คิดเพราะจะมีค่าใช้จ่ายอื่นแฝงมาในภายหลัง
5.1 การซื้อประกันต้องมีสถานที่ซ่อม
หลายคนอาจไม่ค่อยใส่ใจในเรื่องนี้ ก่อนที่พี่เม่นจะกลายมาเป็นนายหน้าประกันภัยก็เคยมองข้ามเช่นกัน แต่ความจริงแล้วนี่คือสิ่งสำคัญอันดับ 1 ที่เราควรให้ความสนใจ
แนะนำให้ใช้ศูนย์หรืออู่ที่อยู่ในเครือของบริษัทประกันภัยเมื่อเข้าซ่อมโดยให้ประกันภัยดูแลค่าใช้จ่าย เนื่องจากศูนย์หรืออู่เหล่านี้มีราคากลางของอะไหล่และค่าแรงอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องผ่านกระบวนการต่อรองราคาซึ่งอาจทำให้เกิดความหงุดหงิดใจว่าทำไมประกันภัยถึงยังไม่อนุมัติสักที
ศูนย์ / อู่ แต่ละแห่งไม่ได้เป็นคู่สัญญากับทุกบริษัทประกันภัย หากไม่ต้องการให้เกิดความยุ่งยากในกระบวนการคุมราคา ควรเลือกศูนย์ / อู่ ที่คาดว่าจะใช้บริการก่อนเป็นอันดับแรก แล้วตรวจสอบว่า ศูนย์ / อู่ นั้นเป็นคู่สัญญาหรืออู่ในเครือของบริษัทประกันภัยใดบ้าง จากนั้นจึงเลือกซื้อเฉพาะบริษัทประกันภัยเหล่านั้น
ถึงแม้ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 จะไม่ครอบคลุมความเสียหายของรถเรา แต่ก็ยังแนะนำให้ตรวจสอบรายชื่ออู่ซ่อมด้วย เพราะแม้ว่าเราจะไม่ได้ซ่อมรถของเราเอง หากคู่กรณีไม่มีประกันของตนเอง ประกันของเราก็ยังต้องรับผิดชอบซ่อมรถให้คู่กรณีอยู่ดี
5.2 เลือกซื้อประกันภัยจากช่องทางที่มีใบเสนอราคาอย่างชัดเจน
บางช่องทางอาจให้ข้อมูลเพียงแค่ทุนประกันรถยนต์ของเราและเบี้ยประกันภัยที่ลดแล้วว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ ซึ่งอาจทำให้เราเข้าใจผิดในการเลือกซื้อประกันภัยที่ไม่คุ้มค่าเพราะพิจารณาแค่ราคาเท่านั้น
ใบเสนอราคาที่มีคุณภาพควรประกอบด้วย
เป็นเอกสารที่ระบุข้อมูลของนายหน้าประกันภัยอย่างชัดเจน รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับตัวตน วิธีการติดต่อ วันที่ออกใบเสนอราคา และข้อมูลเกี่ยวกับรถที่ทำประกันภัย
มีชื่อบริษัทประกันภัยที่แน่นอน
มีองค์ประกอบความคุ้มครองทั้ง 3 ส่วนอย่างครบถ้วน เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยสามารถเปรียบเทียบความคุ้มครองกับราคาตามหน้ากรมธรรม์ได้ด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง ประกอบด้วย
ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ชีวิต ร่างกาย สุขภาพ ทรัพย์สิน)
ความรับผิดต่อตัวรถยนต์ (รถของเรา)
ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย (คนขับและผู้โดยสารในรถของเรา)
เบี้ยประกันภัยที่จะแสดงในหน้ากรมธรรม์ เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยสามารถเปรียบเทียบความคุ้มครองและเบี้ยประกันภัยได้จากข้อมูลที่แท้จริง
ส่วนลดจากผู้ขาย หากมีส่วนลดจากผู้ขาย ควรแยกรายการออกมาให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยทราบถึงที่มาของเบี้ยประกันภัยที่ต้องชำระจริง ๆ
5.3 ตัดสินความคุ้มค่าจากความคุ้มครองทั้ง 3 ส่วน
ประกันรถยนต์มีความคุ้มครองแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก / ความคุ้มครองรถยนต์คันเอาประกันภัย / ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย (คนขับและผู้โดยสารในรถของเรา) หากสังเกตดี ๆ จะพบว่าเบี้ยประกันภัยบางครั้งต่างกันเพียงหลักร้อยหรือหลักพัน แต่ความคุ้มครองกลับแตกต่างกันเป็นหลักแสนหลักล้าน
แนะนำให้เลือกความคุ้มครองในส่วนความรับผิดต่อบุคคลภายนอก และความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้ายให้สูงที่สุด เนื่องจากความเสียหายส่วนนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะไม่สามารถรอได้ ต้องรีบชดเชยความเสียหายนั้นโดยด่วน
5.4 ผู้จำหน่ายรายนี้มีช่องทางให้เราติดต่อได้ตลอดเวลาหรือไม่
หลังจากที่นายหน้าประกันภัยขายประกันให้กับลูกค้าแล้ว ควรจะสามารถให้คำแนะนำการใช้งานแก่ลูกค้าได้ตลอดระยะเวลาที่กรมธรรม์ยังมีผลบังคับใช้ ควรมีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน และบางครั้งอาจต้องมีช่องทางสำรองสำหรับลูกค้าในกรณีที่ไม่สามารถติดต่อกับตนเองได้
ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยซื้อประกันภัยผ่านนายหน้าของศรีกรุงโบรคเกอร์ นอกจากจะสามารถติดต่อผ่านนายหน้าคนนั้นแล้ว ยังสามารถติดต่อกับสำนักงานสาขาของศรีกรุงโบรคเกอร์ที่มีอยู่ทั่วประเทศได้อีกด้วย
5.5 มีส่วนลดจากผู้ขายแยกให้เห็นชัดเจน
การซื้อประกันภัยรถยนต์มีส่วนลดแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
ส่วนลดจากบริษัทประกันภัย ซึ่งคำนวณจากประวัติการใช้งานประกันภัยและเงื่อนไขความคุ้มครองที่กำหนด
ส่วนลดจากผู้ขายเป็นส่วนลดเพิ่มเติมจากบริษัทประกันภัย บางแพ็กเกจอาจสามารถซื้อได้จากหลายช่องทางในราคาเดียวกัน แต่แต่ละช่องทางอาจมีเงื่อนไขการลดราคาจากผู้ขายที่แตกต่างกัน เช่น หากเราเป็นสมาชิกศรีกรุงโบรคเกอร์ เราจะได้รับสิทธิ์ซื้อประกันวินาศภัยทุกประเภทในราคาสมาชิก แต่ส่วนลดสำหรับสมาชิกในการซื้อประกันภัยรถยนต์แต่ละบริษัท แต่ละประเภท และในแต่ละเดือนไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรตรวจสอบสิทธิประโยชน์นี้กับเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง

6 การซื้อประกันภัยออนไลน์และผ่านนายหน้ามีความแตกต่างกันอย่างไร?
ขอให้เข้าใจเบื้องต้นว่าการเสนอแพคเกจประกันภัยรถยนต์แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ
1 แพคเกจสำเร็จรูป: โดยทั่วไปเป็นแพคเกจสำหรับรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในตลาด จึงมีลูกค้าจำนวนมาก เพื่อประหยัดเวลา บริษัทประกันภัยจึงออกแบบแพคเกจสำเร็จรูปไว้ล่วงหน้า ไม่สามารถปรับแต่งความคุ้มครองได้อีก ทำให้นายหน้าประกันภัยสามารถตรวจสอบราคาให้ผู้เอาประกันภัยได้อย่างรวดเร็ว
2 แพคเกจเฉพาะบุคคล: มักเป็นแพคเกจสำหรับรถที่ไม่ได้ใช้งานทั่วไป หรือมีการดัดแปลงจากมาตรฐานโรงงาน มีจำนวนลูกค้าน้อย เพื่อให้การเสนอราคาสอดคล้องกับความเสี่ยงที่แท้จริง นายหน้าประกันภัยจะต้องส่งรายละเอียดไปตรวจสอบกับบริษัทประกันภัยโดยตรง เพื่อให้บริษัทประกันภัยออกใบเสนอราคาเป็นกรณีๆ ไป
การซื้อประกันภัยออนไลน์
เหมาะกับคนที่ชอบทำทุกอย่างด้วยตนเอง มักจะเป็นการซื้อประกันรถยนต์ผ่านโบรคเกอร์ประกันภัยออนไลน์ที่ผู้เอาประกันภัยเป็นผู้กรอกรายละเอียดของรถ เช่น ยี่ห้อ รุ่น ปี แล้วก็สามารถหาเบี้ยประกันภัยรถยนต์ได้เลย โดยมักจะเสนอเพียงแพคเกจสำเร็จรูปที่มีอยู่ในฐานข้อมูลของผู้จำหน่าย
เราสามารถเอาความรู้ทั้งหมดที่พี่เม่นแนะนำในบทความนี้มาเลือกเปรียบเทียบรายละเอียดความคุ้มครองและความคุ้มค่าสำหรับเราได้เลย
กรณีที่ไม่พบแพคเกจนั่นหมายความว่ารถรุ่นนั้นควรจะส่งเช็คเบี้ยประกันภัยกับนายหน้าประกันภัย เพื่อให้นายหน้าช่วยเช็คเบี้ยจากหลาย ๆ บริษัทและเปรียบเทียบให้เรา

ข้อดีของการซื้อประกันภัยออนไลน์
สามารถซื้อได้สะดวกรวดเร็วสามารถซื้อได้ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง
มักถูกออกแบบมาเพื่อให้การชำระเงินออนไลน์เป็นเรื่องง่าย เช่น การสแกนเพื่อจ่ายเงิน รูดบัตรเครดิต หรือผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต โดยสามารถใช้บัตรของบุคคลใดก็ได้
มีแพคเกจที่มีคุณสมบัติพิเศษแตกต่างจากแพคเกจมาตรฐาน ทำให้ราคาถูกลง แต่ก่อนซื้อควรทำความเข้าใจเงื่อนไขให้ดี เช่น ทุนประกัน ระยะเวลารับประกัน และค่าเสียหายส่วนแรก
ข้อพึงระวังของการซื้อประกันภัยออนไลน์
เราตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่มีใครมาคอยตรวจสอบให้ ควรเลือกอย่างมีสติ โดยคำนึงถึงปัจจัยการใช้งานและความคุ้มครองอย่างรอบคอบ และให้ความสำคัญกับเรื่องราคาเป็นสิ่งสุดท้ายเท่านั้น
ทุกการคีย์ข้อมูลมีความหมายและสำคัญ คีย์ด้วยความระมัดระวังและตรวจทานทุกตัวอักษร เพราะหากคีย์ผิดพลาดอาจจะส่งผลต่อความคุ้มครอง
การซื้อประกันภัยผ่านนายหน้าประกันภัย
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีนายหน้าประกันวินาศภัยคอยให้คำปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อประกันภัยให้ตรงตามความต้องการ ประหยัดและคุ้มค่าที่สุด รวมถึงคำแนะนำในการใช้ประกันภัยในวันที่จำเป็นต้องใช้งานจริง โดยผู้ใช้บริการจะต้องให้ความร่วมมือในการจัดเตรียมเอกสารและข้อมูลที่จำเป็นเพื่อใช้ในการตรวจสอบเบี้ยประกันภัยอย่างครบถ้วนในทุกด้าน
รถบางรุ่นที่มีผู้ใช้จำนวนมากจะมีแพคเกจสำเร็จรูปซึ่งทำให้ได้ราคาที่รวดเร็วขึ้น ส่วนรถบางรุ่นที่มีผู้ใช้น้อยหรือมีความพิเศษบางอย่างจะไม่มีแพคเกจสำเร็จรูป นายหน้าประกันภัยจะช่วยประสานงานส่งเอกสารและข้อมูลไปยังบริษัทประกันภัยต่าง ๆ เพื่อขอราคาและนำมาเปรียบเทียบให้เราอีกครั้งหนึ่ง

ข้อดีของการซื้อประกันภัยผ่านนายหน้าประกันภัย
ความเชี่ยวชาญและคำแนะนำ: นายหน้าประกันภัยมีความรู้และประสบการณ์ในการเลือกประกันภัยที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า ทำให้สามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมได้
เปรียบเทียบหลายบริษัท: นายหน้าสามารถเข้าถึงข้อมูลจากหลายบริษัทประกันภัย ทำให้ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบแผนประกันและราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การบริการที่เป็นส่วนตัว: นายหน้าสามารถให้บริการที่เป็นส่วนตัวและตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะตนของลูกค้าได้ดี
ช่วยในการเคลมประกัน: นายหน้าสามารถช่วยให้คำแนะนำลูกค้าในการดำเนินการเคลมประกันภัย ทำให้กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว
ประหยัดเวลา: การซื้อประกันผ่านนายหน้าช่วยประหยัดเวลาในการค้นหาข้อมูลและเปรียบเทียบแผนประกันต่าง ๆ
การเข้าถึงข้อเสนอพิเศษ: บางครั้งนายหน้าอาจมีข้อเสนอพิเศษหรือส่วนลดที่ลูกค้าไม่สามารถเข้าถึงได้โดยตรงจากบริษัทประกันภัย หรือจากการซื้อออนไลน์ด้วยตนเอง
ลดโอกาสผิดพลาด: การซื้อประกันภัยทุกประเภทมีรายละเอียดที่ต้องระมัดระวังในทุกขั้นตอน การซื้อประกันภัยผ่านนายหน้าที่มีประสบการณ์ในการทำงานนี้ทุกวันจะมีความรอบคอบมากกว่า
ข้อควรระวังของการซื้อประกันภัยผ่านนายหน้าประกันภัย
ความน่าเชื่อถือของนายหน้า: ควรตรวจสอบประวัติและความน่าเชื่อถือของนายหน้าที่จะทำการซื้อประกันภัย เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงหรือได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง.
ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์: นายหน้าแต่ละคนอาจมีความรู้ไม่เท่ากัน ควรตรวจสอบข้อมูลและเงื่อนไขของกรมธรรม์ด้วยตนเอง.
การบริการหลังการขาย: ควรสอบถามเกี่ยวกับการบริการหลังการขาย และความสะดวกในการติดต่อหลังการขาย เช่น การช่วยเหลือในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด.
สรุปเบื้องหลังราคา ถูกกว่า ของประกันรถยนต์ ที่สมาชิกศรีกรุงโบรคเกอร์เท่านั้นที่รู้
การซื้อประกันภัยรถยนต์ต้องพิจารณาหลายปัจจัย หากคุณต้องการคำแนะนำจากพี่เม่นในการเลือกประกันภัยที่เหมาะสม ประหยัด และคุ้มค่าที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล สามารถติดต่อมาปรึกษาได้ ไม่ว่าราคาจะเป็นแบบใด พี่เม่นจะแนะนำให้ผู้เอาประกันภัยเลือกซื้อประกันผ่านช่องทางที่ให้ผลประโยชน์สูงสุดเสมอ
ติดต่อได้ที่
Line ID : @srikrung168
หรือโทร 0939636151
ข้อมูลสำคัญที่ควรรู้
ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเป็นสมาชิกของศรีกรุงโบรคเกอร์ได้อย่างง่ายดาย โดยเพียงแค่ ซื้อประกันอุบัติเหตุสำหรับสมาชิก ซึ่งถือเป็นการสมัครสมาชิก เมื่อเป็นสมาชิกแล้ว คุณจะสามารถซื้อประกันวินาศภัยทุกประเภทกับศรีกรุงโบรคเกอร์ได้ในราคาพิเศษทันที
นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพเสริมเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยหรือนายหน้าประกันชีวิต ยังมีโอกาสในการสอบและเข้ารับการอบรมเพื่อขอใบอนุญาตกับศรีกรุงโบรคเกอร์ได้อีกด้วย
ศึกษาสิทธิประโยชน์ของสมาชิกศรีกรุงโบรคเกอร์
ติดต่อได้ที่
Line ID : @srikrung168
หรือโทร 0939636151
ความคิดเห็น