บล็อคนี้ยังเขียนไม่เสร็จจ้า มีเวลาจะมาเขียนต่อนะ
ผลประโยชน์ 3 ต่อจากการวางแผนค่าลดหย่อนภาษีด้วยการออมผ่านประกันชีวิต
ผมเชื่อว่าคนที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษีทุกคนก็จะหาค่าลดหย่อนต่าง ๆ เพื่อเอามาทำให้เราเสียภาษีน้อยลง หรือถ้ารายได้ของเราอยู่ในเกณฑ์ที่เสียภาษีไม่มากนัก การเพิ่มค่าลดหย่อนบางอย่างอาจจะทำให้เราไม่ต้องเสียภาษีเลยก็ได้
ก่อนจะไปพูดถึงค่าลดหย่อน เรามาทำความรู้จักกับสมาการคำนวณภาษีแบบคร่าว ๆ ก่อน ดังนี้
เงินได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ
เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี(แบบขั้นบันได) = เงินภาษีที่ต้องจ่าย
จะเห็นได้ว่าในสมาการ "ค่าลดหย่อน" เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ตัวเลข "เงินได้สุทธิ" ของเราลดลงและเป็นตัวแปรสำคัญตัวนึงที่ทำให้เราเสียภาษีน้อยลงนั้นเอง คราวนี้มาดูกันว่าค่าลดหย่อนในมุมมองของผม ซึ่งแบ่งได้ 3 กลุ่ม ประกอบด้วยอะไรกันบ้าง
กลุ่มที่ 1 คือค่าลดหย่อนที่เป็นภาระติดตัวเรา ที่จะต้องได้รับสิทธิ์ลดหย่อนอยู่แล้ว แต่ละคนจะได้ใช้สิทธ์ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับสถานภาพของแต่ละบุคคล เช่น โสดหรือแต่งงานแล้ว มีบุตรหรือไม่ พ่อแม่มีลูกกี่คนและลูกคนไหนใช้สิทธิ์แล้ว รายการค่าลดหย่อนดังกล่าวได้แก่ ค่าลดหย่อนส่วนตัว, ค่าลดหย่อนคู่สมรส, ค่าลดหย่อนบุตร, ค่าลดหย่อนพ่อแม่, ค่าลดหย่อนผู้พิการ
กลุ่มที่ 2 คือการใช้จ่ายเงินออกไป และและการใช้จ่ายนั้นทำให้ได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี เช่น ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวและการจับจ่ายตามแคมเปญที่รัฐบาลจัดขึ้น เงินบริจาคเพื่อการศึกษา เงินบริจาคสถานพยาบาลของรัฐ เงินบริจาคภัยพิบัติ ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน การซื้อประกันสุขภาพ
เหตุที่การซื้อประกันสุขภาพผมจัดให้อยู่ในกลุ่มที่ 2 เพราะเป็นการซื้อแล้วใช้หมดไป ไม่ได้เป็นการออมและการลงทุนเหมือนกลุ่มที่ 3
กลุ่มที่ 3 การออมเงินในประกันชีวิตและการลงทุน คือ การนำเงินเก็บของเราไปเก็บไว้ในประกันชีวิต และกองทุน RMF, LTF โดยมีจุดประสงค์ให้เงินออมของเรานั้นงอกเงยขึ้นภายใต้เงื่อนไขการออมนั้น
ตัวอย่างอัตราเงินเดือนสูงสุดที่ไม่ต้องเสียภาษีของพนักงานออฟฟิตที่เป็นคนโสด ไม่ได้ใช้สิทธิ์หักค่าลดหย่อนของ ภรรยา บุตร พ่อแม่ และการดูแลคนพิการ มีการหักค่าลดหย่อนอย่างเดียวคือ ค่าประกันสังคม 9,000 บาทโดยมีรายได้จากเงินเดือนเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีรายได้จากโบนัส บำเหน็จ และรายได้อื่นใด เดือนละ 26,584 บาท
1. ผลตอบแทนมูลค่าการลดหย่อนภาษี
ถ้าคุณอยากเสียภาษีให้น้อยลง หนึ่งในวิธีการคือเราสามารถวางแผนภาษีด้วยการใช้ค่าลดหย่อนต่าง ๆ มาช่วยได้ โดยที่เรามีค่าลดหย่อนที่สามารถใช้ได้ดังนี้
ค่าลดหย่อนพื้นฐาน เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว คู่สมรส เลี้ยงดูบุตร ดูแลบิดามารดา ดูแลคนพิการ
ค่าลดหย่อนประกันสังคม และค่าลดหย่อนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ค่าลดหย่อนด้านการออมและการลงทุน เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้าน ค่าเบี้ยประกันชีวิต ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ ค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
ค่าลดหย่อนพิเศษที่รัฐเพิ่มให้ในแต่ละปี เช่น ค่าใช้จ่ายเดินทางท่องเที่ยวในประเทศในโครงการต่าง ๆ
ค่าลดหย่อนจากการบริจาค เช่น เงินบริจาคให้ผู้ประสบภัย และบริจาคให้สถานพยาบาลของรัฐ
ในบทความนี้เราจะพูดถึงเรื่องผลประโยชน์ที่ได้รับจากการซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษี
ประกันชีวิต
ประกันสุขภาพ
ประกันชีวิตแบบบำนาญ
2. ผลตอบแทนที่ได้รับจากประกันชีวิต
3. ผลตอบแทนที่ได้มาจากผลตอบแทนอีกที
สนใจสมัครร่วมทีมงานเดียวกับพี่เม่น
ติดต่อได้ที่ Line ID : srikrung168 Line : http://line.me/ti/p/~srikrung168
หรือโทร 0-654-088-088
ใบสมัครออนไลน์ สมัครเป็นทีมงานติดตัวพี่เม่น https://www.srikrungexpo.com/k25655
Comments