top of page

ประกันภัยรถยนต์สาธารณะคืออะไร? ทำไมแพงกว่ารถบ้าน และทำไมต้องซื้อก่อนจด รย.18! (อัปเดต 2568)

  • รูปภาพนักเขียน: P'MEN
    P'MEN
  • 5 พ.ย.
  • ยาว 2 นาที
ชายสองคนยิ้มในรถ สีหน้าแสดงความสุข ข้างมีข้อความ "ประกันภัยรถยนต์สาธารณะ" พื้นหลังเบลอเล็กน้อย


ทำความรู้จัก "ประกันภัยรถยนต์สาธารณะ" ทางรอดของคนขับรถรับจ้างผ่านแอปฯ


สวัสดีครับ! พี่เม่น (นายหน้าประกันภัย) เข้าใจดีว่าหลายคนกำลังตัดสินใจนำรถส่วนตัวไปหารายได้เสริมด้วยการ ขับรถรับส่งผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชัน (เช่น Grab, Bolt, Indrive) แต่พอจะซื้อประกัน...ก็ต้องเจอกับคำถามมากมาย วันนี้พี่เม่นจะมาไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับ "ประกันภัยรถยนต์สาธารณะ" ที่จะทำให้คุณทำธุรกิจได้อย่างถูกกฎหมายและมั่นใจ 100% ครับ!



🧐 ประกันภัยรถยนต์สาธารณะ แตกต่างจากประกันรถยนต์ส่วนบุคคลอย่างไร?


ความแตกต่างหลัก ๆ ไม่ได้อยู่ที่ตัวรถ แต่อยู่ที่ "วัตถุประสงค์ในการใช้รถ" และ "ความเสี่ยง" ที่บริษัทประกันต้องแบกรับไว้ครับ

ลักษณะเปรียบเทียบ

ประกันรถยนต์ส่วนบุคคล

ประกันภัยรถยนต์สาธารณะ/เชิงพาณิชย์

วัตถุประสงค์หลัก

ใช้เดินทางส่วนตัวในชีวิตประจำวัน

ใช้เพื่อการรับจ้าง/หารายได้/ขนส่งสินค้า

ความถี่ในการใช้งาน

ต่ำกว่า (วิ่งระยะทางสั้นกว่า)

สูงกว่ามาก (วิ่งเกือบตลอดเวลา)

ความรับผิดชอบ

ผู้โดยสารคือครอบครัว/เพื่อน (จำนวนน้อย)

ผู้โดยสารคือ "ลูกค้า" (จำนวนมาก/ความเสี่ยงสูง)

ความคุ้มครอง

กำหนดตามวัตถุประสงค์ส่วนตัว

กำหนดตามวัตถุประสงค์การรับจ้าง (ต้องระบุชัดเจน)


💸 ทำไมประกันภัยรถยนต์สาธารณะจึงมีราคาสูงกว่าประกันรถยนต์ส่วนบุคคล?


นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เบี้ยประกันพุ่งสูงขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับ "ความถี่" และ "ความรุนแรง" ของความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นครับ

  1. การใช้งานหนักกว่า (High Exposure): รถสาธารณะวิ่งสะสมระยะทางมากกว่ารถส่วนตัว 3-5 เท่า ทำให้โอกาสในการเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้นตามสถิติ

  2. ความรับผิดชอบต่อลูกค้า (Increased Liability): หากเกิดอุบัติเหตุ แต่ละครั้งไม่ได้มีแค่คู่กรณี แต่ยังมี ผู้โดยสารหลายคน ที่ได้รับบาดเจ็บ บริษัทประกันจึงต้องกำหนด วงเงินความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกที่สูงขึ้นมาก เพื่อคุ้มครองชีวิตและร่างกายของผู้โดยสารทุกคน

  3. ความถี่ในการเคลม (High Frequency Claim): เมื่อวิ่งถี่ โอกาสเฉี่ยวชนเล็กน้อยก็สูงขึ้นตาม ทำให้มีสถิติการเคลมที่บ่อยกว่า



🔒 ทำไมประกันภัยรถยนต์สาธารณะ จึงมีขายแค่ ป.3 และ ป.1?


คุณจะสังเกตได้ว่าประกันรถสาธารณะส่วนใหญ่มักจะเสนอขายเพียงแค่ ประเภท 3 (ป.3) และ ประเภท 1 (ป.1) เท่านั้น ไม่ค่อยมี ป.2, ป.2+ หรือ ป.3+ ที่ได้รับความนิยมในรถส่วนบุคคล เหตุผลคือ:


  • ป.3 (คุ้มครองบุคคลภายนอก): เป็นทางเลือกราคาประหยัดที่เน้นคุ้มครองแค่ คู่กรณี/ลูกค้า (ภาคบังคับตามกฎหมายรับจ้าง) แต่ ไม่คุ้มครองรถเรา ทำให้บริษัทไม่ต้องแบกรับภาระค่าซ่อมรถที่เกิดจากการใช้งานหนัก

  • ป.1 (คุ้มครองสูงสุด): เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้เอาประกันในการบริหารความเสี่ยง โดยให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมตัวรถ (ทุนประกันสูง) และความรับผิดชอบบุคคลภายนอกสูง ซึ่งเหมาะสมกับความเสี่ยงการใช้งานหนัก

สรุปคือ: บริษัทประกันต้องการควบคุมความเสี่ยงให้ชัดเจนที่สุด จึงเลือกขายเฉพาะแผนที่คุ้มครองสูงสุด หรือแผนที่จำกัดความคุ้มครองตัวรถเราไปเลยครับ



🛡️ ทำไมประกันภัยรถยนต์สาธารณะ จึงมีขายเพียงแค่บางบริษัทประกันภัย?


ไม่เหมือนประกันรถยนต์ส่วนบุคคลที่หาซื้อได้เกือบทุกบริษัท แต่ประกันรถสาธารณะจะถูกจำกัดอยู่ในบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและมีนโยบายรองรับเท่านั้น สาเหตุคือ:

  1. ความเสี่ยงสูง (High Loss Ratio): รถสาธารณะมีสถิติการเคลม (Loss Ratio) ที่สูง ทำให้บริษัทประกันหลายแห่งเลือกที่จะ ไม่รับประกัน รถประเภทนี้ เพื่อป้องกันการขาดทุน

  2. นโยบายการรับประกัน (Underwriting Policy): บริษัทที่มีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดีเท่านั้น จึงจะมี นโยบายการรับประกัน (Underwriting) ที่กล้าพอจะรับรถกลุ่มนี้ โดยจะต้องมีการกำหนดเบี้ยประกันที่เข้มงวดและเหมาะสม

ดังนั้น: การหาประกันรถสาธารณะจึงต้องปรึกษานายหน้าที่มีคู่ค้ากับบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะเท่านั้นครับ



📝 ข้อมูลเบื้องต้นที่ต้องใช้ในการเช็คราคาประกันภัยรถยนต์สาธารณะ (กับพี่เม่น)


การเช็คเบี้ยประกันรถสาธารณะมีความละเอียดกว่ารถส่วนบุคคลมาก เพราะต้องเช็คตามลักษณะการใช้งานที่แท้จริง ดังนั้น สิ่งที่พี่เม่นต้องทราบเพื่อหาเบี้ยที่ดีที่สุดให้คุณ คือ:

  • รายการจดทะเบียน ใช้เพื่ออะไร: เพื่อยืนยันข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดของรถคันเอาประกันภัย และส่งให้บริษัทประกันคำนวณเบี้ยประกันภัยได้อย่างถูกต้อง

  • กรมธรรม์เดิม ใช้เพื่ออะไร: เพื่อทราบว่าปัจจุบันมีการใช้ประกันภัยอย่างไร ดูข้อมูลแล้วควรจะแนะนำให้ทำต่อเนื่องกับบริษัทประกันภัยเดิมดี หรือว่าควรจะเปลี่ยนบริษัทประกันภัย

  • ชื่อแอพที่ใช้ในการขับรับส่งผู้โดยสาร ใช้เพื่ออะไร: เช่น Grab, Bolt, Indrive เพื่ออ้างอิงการวัตถุประสงค์การใช้งานให้ตรงกับเบี้ยประกันภัยที่จะเสนอ เช่น เราใช้รถส่วนบุคคลของเราไปรับจ้างผ่านแอพ หรือนำรถไปขับเป็นแท๊กซี่ส่วนบุคคล ทำเป็นรถโดยสารประจำทาง ต่างก็ใช้ประกันภัยรถยนต์สาธารณะ ทางบริษัทประกันภัยจะได้คำนวณความเสี่ยงและเสนอเบี้ยประกันภัยได้จากข้อมูลที่ถูกต้อง

  • จังหวัด / พื้นที่ ที่ใช้ในการขับรถรับส่งผู้โดยสาร ใช้เพื่ออะไร: เพื่อประเมินความเสี่ยงตามภูมิภาค เพราะอัตราการเกิดอุบัติเหตุในเมืองใหญ่กับต่างจังหวัดอาจแตกต่างกัน


📜 ทำไมจะต้องซื้อ พ.ร.บ. สาธารณะ และประกันภัยรถยนต์สาธารณะ "ก่อนจด รย.18"?


หากคุณกำลังจะนำรถส่วนบุคคลไปจดทะเบียนเป็นรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน (ตามกฎหมายกำหนดให้จด ป้ายทะเบียน รย.18) คุณ ต้องทำประกันให้เสร็จก่อน เพราะ:


พ.ร.บ. สาธารณะ: คือเอกสารสำคัญที่ กรมการขนส่งทางบก ต้องใช้ในการยื่นจดทะเบียน รย.18 เพื่อแสดงว่ารถของคุณมีหลักประกันความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก (ผู้โดยสาร) ที่สูงและเหมาะสมกับการใช้งานเชิงพาณิชย์แล้ว


ประกันภัยรถยนต์สาธารณะ: เพื่อให้กรมธรรม์มีความคุ้มครองที่ถูกต้องตาม วัตถุประสงค์การใช้รถ ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มวิ่งรับจ้าง เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุระหว่างรอเปลี่ยนป้ายทะเบียน แต่ประกันระบุว่าเป็นรถส่วนบุคคล...คุณอาจถูกปฏิเสธการเคลมได้ครับ!



🛠️ กระบวนการในการจด รย.18 เพื่อนำรถไปให้บริการรับส่งผู้โดยสารผ่านแอพพลิเคชั่น


การจด รย.18 คือการขออนุญาตเปลี่ยนประเภทการใช้รถเพื่อให้บริการรับส่งผู้โดยสารอย่างถูกกฎหมาย


คุณสมบัติรถที่สามารถจดทะเบียนได้

  1. สามารถจดทะเบียนรถได้ คนละ 1 คัน

  2. ชื่อผู้ครอบครองรถต้องเป็นชื่อผู้ให้บริการ หรือบุคคลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด เช่น:

    1. คู่สมรส (สามี ภรรยา หรือคู่สมรสกรณีสมรสเท่าเทียม)

    2. บุพการี (บิดา มารดา บิดาบุญธรรม มารดาบุญธรรม)

    3. ผู้สืบสันดาน (บุตร บุตรบุญธรรม)

    4. ญาติที่มีเอกสารทางราชการรับรอง (คู่หมั้น พี่ น้อง ลูกพี่ลูกน้อง ฯลฯ)

    5. ผู้อยู่อาศัยในบ้านเดียวกันและมีทะเบียนบ้านรับรอง (เช่น คู่สมรสที่ไม่ได้จดทะเบียน)

  3. รถที่นำมาจดทะเบียนต้องมี อายุไม่เกิน 9 ปี

  4. ไม่ต้องเปลี่ยนทะเบียนเป็นป้ายเหลือง และ ไม่มีข้อกำหนดเรื่องติดฟิล์ม

  5. แสดงหลักฐานการจดทะเบียนถูกต้องด้วยสติ๊กเกอร์ที่ได้รับจากสำนักงานขนส่ง


ขั้นตอนการจดทะเบียนรถรับจ้างสาธารณะ

  1. คุณสมบัติ: ผู้ขับต้องมีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ (สำหรับรถแท็กซี่/รถรับจ้างสาธารณะ)

  2. ซื้อ พ.ร.บ. และประกันภัย: ต้องทำ พ.ร.บ. สาธารณะ และ ประกันภัยรถยนต์สาธารณะ ที่ถูกต้อง

  3. ยื่นขอความเห็นชอบ ที่สำนักงานขนส่งหลักของจังหวัดที่ต้องการจดทะเบียน

  4. ตรวจสภาพรถ: นำรถไปตรวจสภาพตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด (เช่น ติดตั้งอุปกรณ์ GPS, ผ่านเกณฑ์อายุรถ)

  5. ยื่นคำขอ: ยื่นเอกสารทั้งหมดที่กรมการขนส่งทางบกเพื่อขอเปลี่ยนป้ายทะเบียนเป็น รย.18

  6. รับสติ๊กเกอร์ รถรับจ้างผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์


ขั้นตอนทำใบขับขี่สาธารณะ

  1. อบรมออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ https://www.dlt-elearning.com

  2. จองคิวสอบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์หรือแอป https://gecc.dlt.go.th หรือแอป DLT Smart Queue


เตรียมเอกสารที่ต้องใช้ยื่นขอความเห็นชอบ

  1. บัตรประชาชน (ตัวจริง พร้อมสำเนา 2 ฉบับ)

  2. ใบขับขี่สาธารณะ (ตัวจริง พร้อมสำเนา 2 ฉบับ)

  3. เล่มรถตัวจริง (พร้อมสำเนา 2 ฉบับ)

  4. ใบรับรองสังกัดแอป (ปริ้นต์ 2 ฉบับ)

  5. เอกสารประกันภัยรถยนต์สาธารณะ (ตัวจริง พร้อมสำเนา 2 ฉบับ)

  6. ตารางกรมธรรม์ พ.ร.บ. สาธารณะ (ตัวจริง พร้อมสำเนา 2 ฉบับ)

  7. สำหรับรถที่เบิกเล่มจากไฟแนนซ์:

    1. หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทไฟแนนซ์

    2. หนังสือมอบอำนาจจากบริษัทไฟแนนซ์

  8. กรณีไม่ใช่เจ้าของรถ:

    1. หนังสือรับรองความสัมพันธ์: คู่สมรส, บุพการี, ผู้สืบสันดาน, ญาติที่มีเอกสารทางราชการรับรอง, ผู้อาศัยในบ้านเดียวกันและมีทะเบียนบ้านรับรอง

    2. หนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของรถ (ยินยอมให้ใช้รถเพื่อขับรับจ้างผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์)

    3. สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถ (พร้อมเซ็นยินยอม – 2 ฉบับ)

    4. สำเนาใบขับขี่เจ้าของรถ (พร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง – 2 ฉบับ)


นำเอกสารไปยื่นขอความเห็นชอบ ที่สำนักงานขนส่งหลักของจังหวัดที่ต้องการจดทะเบียน

ขั้นตอนการนำรถยนต์เข้าตรวจสภาพ

  1. นำเอกสารส่งตรวจสภาพรถ (ได้หลังจากเซ็นหนังสือขอความเห็นชอบ) มายื่นที่ส่วนตรวจสภาพรถ

  2. นำรถเข้าตรวจสภาพ ในจุดที่กรมขนส่งแต่ละสาขากำหนด

  3. กลับมารับเอกสาร รับรองการตรวจสภาพรถ ที่ส่วนตรวจสภาพรถ เพื่อนำไปยื่นจดทะเบียน


ขั้นตอนการจดทะเบียน รย.18

  1. ยื่นเอกสารรับรองการตรวจสภาพที่ส่วนทะเบียนรถยนต์

  2. (ค่าธรรมเนียม 25 บาท / หากรถติดไฟแนนซ์มีค่าธรรมเนียมเพิ่ม 25 บาท)

  3. รอรับเอกสารยืนยันการเปลี่ยนประเภทรถยนต์


ขั้นตอนการรับสติ๊กเกอร์

  1. นำเอกสารการจดทะเบียนกลับมายื่นที่ส่วนตรวจสภาพรถ

  2. ชำระค่าธรรมเนียม (50 บาท)




🙋‍♂️ สรุปและทางออกที่ดีที่สุด


การเปลี่ยนจากรถส่วนบุคคลมาเป็นรถรับจ้างหารายได้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่คุณจะต้องใส่ใจเรื่องประกันภัยให้มากกว่าเดิม เพราะเบี้ยประกันที่สูงขึ้นก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ขึ้นนั่นเองครับ

อย่าเสี่ยงใช้รถผิดประเภท! ถ้าคุณกำลังจะเริ่มวิ่งรับจ้างผ่านแอปฯ คุณต้องมีประกันภัยที่ถูกต้องเท่านั้น เพื่อให้ทุกการเดินทางของคุณและผู้โดยสารได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่


ปรึกษาพี่เม่นก่อนตัดสินใจ!พี่เม่น (นายหน้าประกันภัย) พร้อมช่วยคุณเช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์สาธารณะในราคาที่ดีที่สุด จากบริษัทประกันที่รับรถประเภทนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้คุณสามารถจด รย.18 และเริ่มทำธุรกิจได้อย่างมั่นใจและถูกกฎหมายครับ!

📲 ติดต่อพี่เม่นได้เลย (เช็คเบี้ยฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย)

  • โทร: 0939636151

  • ไลน์ไอดี: 66867870922

#srikrung168 #srikrungbroker #พี่เม่น #พี่เม่นนายหน้าประกันภัย #ประกันรถยนต์ #ประกันภัยรถยนต์สาธารณะ #รย18 #ประกันรถเชิงพาณิชย์ #ประกันรถรับจ้างแอป #SEOประกันภัย


ข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ 

ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเป็นสมาชิกของศรีกรุงโบรคเกอร์ได้อย่างง่ายดาย โดยเพียงแค่ ซื้อประกันอุบัติเหตุสำหรับสมาชิก ซึ่งถือเป็นการสมัครสมาชิก เมื่อเป็นสมาชิกแล้ว คุณจะสามารถซื้อประกันวินาศภัยทุกประเภทกับศรีกรุงโบรคเกอร์ได้ในราคาพิเศษทันที


นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพเสริมเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยหรือนายหน้าประกันชีวิต ยังมีโอกาสในการสอบและเข้ารับการอบรมเพื่อขอใบอนุญาตกับศรีกรุงโบรคเกอร์ได้อีกด้วย






ศึกษาสิทธิประโยชน์ของสมาชิกศรีกรุงโบรคเกอร์


ติดต่อได้ที่

Line ID : @srikrung168

หรือโทร 0939636151


ซื้อประกันอุบัติเหตุ พร้อมสมัครสมาชิกศรีกรุงโบรคเกอร์


ซื้อประกันภัยออนไลน์

ความคิดเห็น


bottom of page