top of page
รูปภาพนักเขียนP'MEN

อยากมีรายได้เป็น "แสน" ต่อเดือนต้องอ่าน

อัปเดตเมื่อ 2 ธ.ค. 2563

อาชีพเสริมเติมรายได้ ที่ทุกคนทำได้ไม่ต้องลงทุนสูง สร้าง Passive Income ในอนาคต

ถ้าอ่านจนจบ แปลว่าคุณประสบความสำเร็จไปแล้ว 50% (มีลิ้งค์ตอนที่ 2 ข้างล่าง)






ในสภาวะเงินทองหายากตอนนี้ การมีเพียงอาชีพเดียวคงจะไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป แล้วอาชีพอะไรที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถทำได้โดยไม่ต้องมีเงินลงทุนสูง ๆ ถูกกฎหมาย และสามารถให้ความมั่นคงทางรายได้ สร้าง Passive Income ในอนาคตให้กับเรา


คำตอบคงจะหนีไม่พ้น "นายหน้าประกันวินาศภัย"


ทำไมจะต้องเป็นประกันวินาศภัย เอาให้เข้าใจกันง่าย ๆ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าตัวเราเองก็เป็นลูกค้าที่ซื้อประกันวินาศภัยอยู่แล้ว ที่ใกล้ตัวที่สุด ก็คือ พรบ. มอเตอร์ไซค์ และ พรบ. รถยนต์นี่ไง และเป็นสินค้าจำเป็นที่ทุกคนต้องซื้อ ไม่ซื้อก็ไม่ได้เพราะกฎหมายบังคับให้มี พรบ จึงจะสามารถเสียภาษีและต่อทะเบียนรถยนต์ได้


นอกจาก พรบ. แล้ว รถยนต์ส่วนใหญ่ก็ยังซื้อประกันภาคสมัครใจเพิ่มเติมอีก เช่น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1, ชั้น 2, ชั้น 3, ชั้น 2+ ชั้น 3+ นั่นแปลว่า คนที่เป็นนายหน้าประกันวินาศภัย จะมองเห็นลูกค้าขับรถเคลื่อนผ่านหน้าไปมาบนท้องถนนตลอดเวลา เหมือนหมีที่กำลังมองปลาแซลม่อนแหวกว่ายอยู่ตรงหน้านั่นเอง


อีกทั้งอาชีพนายหน้าหรือตัวแทน ยังเป็นอาชีพที่สงวนเอาไว้สำหรับคนไทย โดยเฉพาะนายหน้าและตัวแทนสายประกันวินาศภัยและประกันชีวิต มีเพียงคนไทยเท่านั้นที่สามารถสมัครสอบและสอบขอรับใบอนุญาตได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้วุฒิการศึกษาใด ๆ ในการสมัคร คนไทยทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำอาชีพนี้ได้อย่างเท่าเทียม

ภาพจาก : โพสต์ทูเดย์



แล้วใครที่มีคุณสมบัติที่จะเข้ามาทำอาชีพนายหน้าประกันวินาศภัย และนายหน้าประกันชีวิตนี้ได้ ?

คือทุกคนขอเพียงแค่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดสภาพร่างกาย ทำได้ทั้งผู้ที่มีงานประจำอยู่แล้ว ผู้ว่างงาน แม่บ้าน นักศึกษา หรือคนพิการ ทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือประสบการณ์มาก่อน ไม่ต้องพูดเก่ง ใคร ๆ สามารถเข้ามาสู่อาชีพนี้ได้ ที่บอกว่าต้องมีอายุ 20 ปี เพราะว่าคนที่กฎหมายอนุญาตให้สมัครสอบใบอนุญาตได้ต้องมีอายุ 20 ปีนี่เอง


แต่คนที่อายุไม่ถึง 20 ก็สามารถเข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพนี้ไว้ล่วงหน้า เพื่อเตรียมควมพร้อมให้กับตนเอง และเมื่ออายุครบถึงเกณฑ์ที่สามารถสมัครสอบได้ ในเวลานั้นคุณอาจจะมีความรู้ มีแนวทางการทำงาน และมีฐานลูกค้าในมือ จัดเตรียมไว้สำหรับการเติบโตในสายอาชีพนี้เรียบร้อยแล้ว


รายได้ของอาชีพนี้มาจากไหน

ปกติก็จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การขายเอง และการสร้างทีมงาน แต่จะมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับนโยบายการตลาดของแต่ละบริษัท


แต่ถ้าคุณมาเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย และนายหน้าประกันชีวิตกับศรีกรุงโบรคเกอร์ ชีวิตการทำงานก็จะแฮปปี้ ไม่กดดัน ทำไมนะเหรอ?


ก็เพราะระบบของศรีกรุงโบรคเกอร์ออกแบบมาให้ ทุกคนสามารถทำงานได้อย่างงานอิสระ ออกแบบรูปแบบการทำงาน และเวลาทำงานของตนเองได้ คุณไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย ไม่ต้องสต๊อกสินค้า ไม่มีการบังคับยอดขาย ไม่ต้องรักษายอดประจำเดือนหรือปี ดังนั้นจึงไม่มีความกดดันใด ๆ รายได้จึงขึ้นอยู่กับความตั้งใจและความขยันของแต่ละบุคคลเป็นหลัก


แต่ทั้งนี้ทุกคนก็สามารถปรับระดับเติบโตขึ้นตำแหน่งที่สูงขึ้นได้รวมถึงมีรายได้มากขึ้น หากทำยอดของทีมได้ตามตามเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด ซึ่งการใช้ยอดทีมเป็นเกณฑ์ทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น


หากเป็นนายหน้ากับศรีกรุงโบรคเกอร์ ขายอะไรได้บ้าง

ณ ชั่วโมงนี้บอกได้คำเดียวว่า เป็นนายหน้ากับศรีกรุงโบรคเกอร์มีสินค้าให้ขายหลากหลายมาก ลองมาดูกันว่า มีประกันประเภทไหนที่เราขายได้บ้าง

  1. พรบ. รถยนต์

  2. พรบ. มอเตอร์ไซค์

  3. ประกันภัยรถยนต์

  4. ประกันภัยมอเตอร์ไซต์

  5. ประกันภัยการเดินทาง

  6. ประกันสุขภาพ

  7. ประกันอุบัติเหตุ

  8. ประกันอัคคีภัย

  9. ประกันภัยผู้เล่นกอล์ฟ

  10. ประกันความรับผิดชอบสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์

  11. ประกันการขนส่ง

  12. ประกันภัยคุ้มครองผู้พักในห้อพัก

  13. ประกันภัยผู้ตรวจสอบอาคาร

  14. ประกันภัยสัตว์เลี้ยง (สำหรับสุนัข และแมว)

  15. ประกันอุบัติเหตุสำหรับนักปั่น

  16. ประกันภัยสวนทุเรียน

  17. ประกันภัยโจรกรรมร้านทอง

  18. ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายจากการประกอบกิจการควบคุมประเภทที่3 (การควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง)

  19. ประกันภัยความรับผิดชอบต่อสินค้า

  20. ประกันทรัพย์สินคุ้มครองภัยจากเหตุกาณ์ความไม่สงบ

  21. ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก สำหรับสถานประกอบการ

  22. ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก สำหรับการทำเหมืองแร่รทำเหมืองแร่

  23. ประกันภัยรับผิดต่อบุคคลภายนอก สำหรับโรงแรมขนาดเล็ก (PL)

  24. ประกันภัยรับผิดต่อบุคคลภายนอก สำหรับร้านอาหารขนาดเล็ก (PL)

  25. ประกันภัยรับผิดต่อบุคคลภายนอก สำหรับสโมสร สปาขนาดเล็ก (PL)

  26. ประกันภัยรับผิดต่อบุคคลภายนอก สำหรับสำนักงานขนาดเล็ก (PL)

  27. ประกันโจรกรรมรถจักรยานยนต์แบบเงินสด

  28. ประกันรถโจรกรรมรถจักรยานยนต์แบบเช่าซื้อ

  29. ประกันภัยผู้โดยสารเรือ (พรบ.เรือฯ)

  30. ประกันชีวิต


วิธีการสร้างรายได้ทำอย่างไร

เราแบ่งวิธีการสร้างรายได้ออกเป็น 3 วิธี คือ


1. การขาย ใครจะสร้างรายได้ด้วยวิธีนี้ จำเป็นที่จะต้องมีบัตรนายหน้าเสียก่อนจึงจะสามารถขายได้ เพราะตามกฎหมายกำหนดไว้อย่างนั้น โดยผู้ขายจะได้รับค่าคอมมิชชั่นเป็นจำนวน 8-15% ขึ้นอยู่กับว่าขายประกันอะไรของบริษัทไหน เนื่องจากแต่ละบริษัทให้ผลตอบแทนไม่เท่ากัน


สมมติ เบี้ยประกันสุทธิ 10,000 บาท ผู้ขายจะได้ค่าคอมมิชชั้น 800-1,500 บาท และจะมากหรือน้อยกว่านั้นตามจำนวนมูลค่าเบี้ยประกันสุทธิที่ลูกค้าซื้อใช้


เบี้ยประกันภัยสุทธิ 10,000 บาท

ขายลูกค้าได้ 1 คน จะมีรายได้ 800-1,500 บาท ขายลูกค้าได้ 10 คน จะมีรายได้ 8,000-15,000 บาท ขายลูกค้าได้ 100 คน จะมีรายได้ 80,000-150,000 บาท ขายลูกค้าได้ 1,000 คน จะมีรายได้ 800,000-1,500,000 บาท ขายลูกค้าได้ 10,000 คน จะมีรายได้ 8,000,000-15,000,000 บาท


โห.....ถ้าใครขายด้วยตัวคนเดียวได้จำนวนปีละ 1,000 คน นั้นหมายถึงเฉลี่ยเดือนละ 84 คน คงต้องเรียกว่าโคตรเซียนกันเลย


2. การแนะนำสมาชิกซื้อใช้ หากเราเพิ่งเริมต้นอาชีพนี้ใหม่ ๆ ความรู้ยังไม่มาก ไม่มีบัตรนายหน้า จะไปขายใครก็คงยังไม่น่าเชื่อถือ เราก็ใช้วิธีการแนะนำสมาชิกซื้อใช้ได้ โดยแนะนำให้เค้าสมัครเป็นสมาชิกศรีกรุงโบรคเกอร์ เพื่อซื้อประกันภัยรถยนต์ พรบ หรือประกันชนิดอื่น ๆ ใช้เอง แต่มีข้อแม้ว่าเค้าจะต้องเป็นสมาชิกที่เราเป็นผู้แนะนำติดตัวเราเท่านั้น ซึ่งสมาชิกทุกคนจะได้สิทธิ์ส่วนลดประกันภัยรถยนต์อยู่ที่ 5-12% และประกันภัยชนิดอื่น ๆ ในอัตราที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าซื้อประกันอะไร ของบริษัทไหน ส่วนผู้แนะนำ บริษัทจะมอบค่าแนะนำให้ 1% ทุก ๆ ยอดซื้อของสมาชิกท่านนั้น ตลอดไป จนกว่าเค้าจะเลิกซื้อ เรียกได้ว่าถึงจะมีรายได้ไม่มาก แต่ก็ได้กันยาว ๆ เลย และก็มีข้อดีอีกอย่างคือ ในเมื่อลูกค้าได้รับส่วนลด ก็จะปิดการขายได้ง่ายขึ้น มาดูกันว่าส่วนนี้ใครได้อะไรเท่าไหร่บ้าง


สมมติ เบี้ยประกันสุทธิ 10,000 บาท สมาชิกซื้อใช้จะได้ส่วนลด 500-1,200 บาท ส่วนผู้แนะนำจะได้ค่าแนะนำ 100 บาท


เห็นตัวเลขแค่ 100 บาท ช่างน้อยนิดเหลือเกิน อย่าลืมว่านี้เป็นรายได้จากลูกค้าเพียงรายเดียว แต่ถ้าหากเราหาลูกค้าสะสมได้เราก็จะได้มากขึ้น


เบี้ยประกันภัยสุทธิ 10,000 บาท

มีทีมงาน 1 คน จะมีรายได้ 100 บาท

มีทีมงาน 10 คน จะมีรายได้ 1,000 บาท

มีทีมงาน 100 คน จะมีรายได้ 10,000 บาท

มีทีมงาน 1,000 คน จะมีรายได้ 100,000 บาท

มีทีมงาน 10,000 คน จะมีรายได้ 1,000,000 บาท


แนะนำสมาชิก 1,000 คน ดูท่าทางจะง่ายกว่าขายลูกค้า 1,000 คนจริงมั้ย


นอกจากนั้นในปีต่ออายุจะมีเจ้าหน้าที่บริษัท คอยประสานกับสมาชิกซื้อใช้เพื่อต่ออายุประกันแทนเรา เราก็ยังคงได้ค่าแนะนำนี้ต่อไป แล้วใช้เวลาที่ว่างลงไปหาสมาชิกซื้อใช้รายใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นดีกว่า


ข้อนี้ดี มีพนักงานช่วยทำให้ แต่เราก็ยังคงมีรายได้ แต่ก็อย่าลืมบอกสมาชิกที่เราแนะนำเข้ามาด้วยละครับ ว่าจะมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทโทรหาในปีต่ออายุ เดี๋ยวเค้าจะงง


3. การสร้างทีมงาน ลักษณะก็เหมือนกับสมาชิกซื้อใช้ แต่ต่างกันตรงที่ทีมงานจะเข้ามาโดยมีจุดประสงค์ในการสร้างรายได้เป็นหลัก ส่วนลดในการซื้อประกันใช้เองนี้เป็นเพียงผลพลอยได้ เริ่มต้นทีมงานทุกคนที่สมัครเข้ามาไม่จำเป็นต้องมีบัตรนายหน้ามาก่อน ก็สามารถเริ่มแนะนำสมาชิกซื้อใช้ และสร้างทีมงานได้ทันที และเมื่อมีความรู้พร้อมแล้วค่อยสอบบัตรนายหน้าเพื่อปรับระดับสมาชิกและรับรายได้เพิ่มเติมต่อไป


โดยรายได้จากการสร้างทีมงานจะมาจาก ส่วนต่างระดับของเรากับลูกทีม โดยจะคิดจากผลงานของลูกทีมตลอดทั้งสายที่ต่ำกว่าเรา สมมุติมีความต่างกันที่ 3%


เบี้ยประกันภัยสุทธิ 10,000 บาท

มีทีมงาน 1 คน จะมีรายได้ 300 บาท

มีทีมงาน 10 คน จะมีรายได้ 3,000 บาท

มีทีมงาน 100 คน จะมีรายได้ 30,000 บาท

มีทีมงาน 1,000 คน จะมีรายได้ 300,000 บาท

มีทีมงาน 10,000 คน จะมีรายได้ 3,000,000 บาท


คำว่าตลอดทั้งสายนั้นหมายความว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นลูกทีมที่เราเป็นผู้แนะนำด้วยตนเอง แม้จะเป็นลูกทีมจากลูกทีมของคนอื่น ๆ ของเราแนะนำมาอีกที ขอเพียงแค่เข้ามาอยู่ในสายงานของเรา ก็จะส่งผลต่อรายได้ของเราเช่นกัน ซึ่งการแนะนำทีมงานนี้ จะทำให้เราขยายขีดความสามารถด้านรายได้มากกว่าการขาย และไม่จำกัด โดยทีมงานแต่ละคนไม่ต้องขาย เพียงแค่ซื้อประกันรถยนต์ของตัวเองหรือญาติเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว สำหรับคนที่ไม่มีรถยนต์ของตัวเองก็ไม่เป็นไร ขอเพียงแค่คุณรักษาสถานะสมาชิกเอาไว้ คุณก็มีรายได้เช่นเดียวกัน


และแน่นอนคอนเซ็ปในปีต่ออายุจะเป็นแบบเดียวกันกับการแนะนำสมาชิกซื้อใช้คือ เมื่อถึงปีต่ออายุคนที่เป็นทีมงานเค้าก็จะต่ออายุประกันของเค้าเองอยู่แล้ว เราเอาเวลาที่เหลือไปแนะนำสมาชิกซื้อใช้ และสร้างทีมงานเพิ่มดีกว่า


การรักษาสถานะสมาชิก

ศรีกรุงโบรคเกอร์มีการกำหนดให้นายหน้าทุกคนรักษาสถานะสมาชิกไว้เพื่อรับรายได้ โดยใช้คุณสมบัติเพียง 2 อย่างคือ

1. สถานะบัตรนายหน้าที่ไม่หมดอายุ ซึ่งการต่ออายุบัตรนายหน้าก็เพียงแค่เข้าอบรมต่ออายุบัตรเพื่ออัพเดทข่าวสารทางการประกันภัยใหม่ ๆ เท่านั้น

2. ซื้อ PA สำหรับสมาชิกแพคเกจใดก็ได้ โดยมีราคาที่ 200-2,600 บาท เรียกได้ว่าค่ารักษาสถานะสมาชิกต่ำมากเพียงแค่ปีละ 200 บาทเท่านั้น


การรับรายได้จากศรีกรุงโบรคเกอร์

เมื่อคุณมีสมาชิกในสายมากพอ ขอเพียงคุณรักษาสถานะสมาชิกเอาไว้ เมื่อในสายงานของคุณมีการซื้อประกัน บริษัทก็ส่งรายได้เข้าบัญชีธนาคารของคุณ คุณเพียงซื้อประกันเฉพาะเท่าที่คุณอยากจะซื้อเท่านั้น


การจ่ายค่าคอมมิชชั่น บริษัทจะจ่ายให้วันที่ 7, 14, 21, และ 28 ซึ่งถือว่าเป็นผลพลอยได้จากการขาย แต่รายได้ที่ทุกคนรอคอยและอยากได้จริง ๆ คือค่าแนะนำ และค่าสายงาน ซึ่งจะออกทุกวันที่ 10 รายได้ส่วนนี้มาจากการแนะนำสมาชิกซื้อใช้ และการสร้างทีมงานนั้นเอง ยิ่งมีสมาชิกทีมงานในสายมาก ยิ่งมีรายได้มาก และมากกว่าการขายเสียอีก


แล้วถ้าสถานะสมาชิกขาดละ รายได้จะหายไปต้องเริ่มต้นใหม่รึเปล่า

จุดนี้บอกเลยเป็นข้อดีมาก ๆ เพราะว่าหากสถานะสมาชิกของคุณขาดไปแล้ว ศรีกรุงโบรคเกอร์ก็ยังคงเก็บรายได้เอาไว้ในระบบ รอให้คุณ ไปทำคุณสมบัติทั้ง 2 ข้อนั้นให้กลับมาสมบูรณ์ก่อน แล้วบริษัทก็จะโอนรายได้เข้าบัญชีธนาคารให้คุณ


ส่วนทีมงานที่คุณเคยสร้างมาก็ยังคงอยู่ คุณไม่ต้องเริ่มนับ 1 ใหม่อีกครั้ง แต่ถ้ามีทีมงานเยอะ มีรายได้เยอะแล้วใครน้า.....ที่จะปล่อยให้สถานะสมาชิกขาด


วิธีการทำงานต้องทำอย่างไร

ข้อนี้บอกเลย ทุกคนสามารถออกแบบการทำงานให้เหมาะสมกับความรู้ สภาพแวดล้อม และเครื่องมือที่มีของแต่ละคนเองได้ เท่าที่ฟังวิธีการทำงานของแต่ละคนมาก็มีอึ้งบ้าง เค้าทำกันอย่างนี้ด้วยเหรอ ยกตัวอย่างเช่น


  • สมาชิกที่เป็นพ่อค้าในตลาดนัด เค้าก็ขยายทีมเค้ากับพ่อค้าและแม่ค้าในตลาดนัดด้วยกันเอง

  • สมาชิกบางคนก็ไปออกบูธตามห้างร้านต่าง ๆ เพื่อนำเสนอให้คนที่เดินภายในห้าง

  • มีคนไปเดินหาตามหมู่บ้าน พูดคุยกับคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนก็ได้

  • ญาติพี่น้องนี่ไง เบสิคที่สุด ลองชวนมาคุยดู

  • เพื่อนในออฟฟิตนี่ก็ทำได้ ไม่มีปัญหา

  • ใน Facebook Group นี้ก็ได้ทีมงานเพิ่มไปหลายคน

  • ทางไลน์ และ IG ก็ทำได้นะ


เห็นมั้ยครับมีความหลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีทักษะอะไร หรือหากไม่มีทักษะนั้นเลย ก็สามารถเพิ่มพูนทักษะได้ จะบอกว่าสมาชิกหลายคนประสบความสำเร็จจากเฟสบุค และไลน์ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยใช้งานมาก่อนก็มี


ต้องอบรมมั้ย

ศรีกรุงโบรคเกอร์ ไม่ได้บังคับให้ใครต้องเข้าอบรม แต่.... ถ้าเราไม่เข้าอบรมแล้วเราจะมีความรู้ ความสามารถเอาไปหากินได้อย่างไร


แม้บริษัทจะไม่บังคับการอบรม แต่ก็มีการจัดอบรมให้ที่สาขาของศรีกรุงโบรคเกอร์ทั่วประเทศ โดยจะมีคอร์สหลักอยู่ 4 คอร์ส นั่นก็คือ First Step, Next Step และ Non-Motor และติวสอบ (แต่หลังจากที่เขียนนี้น่าจะมีคอร์สประกันชีวิตเพิ่มขึ้นมา)


สำหรับ First Step, Next Step และ Non-Motor ที่จัดอบรมที่สาขาเป็นประจำอยู่แล้ว ทั้งหมดนี้ไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น คุณจะเข้าซ้ำแล้วซ้ำอีกกี่รอบก็ได้ ยกเว้นการติวสอบ และการสอบจึงจะมีค่าสมัคร นอกจากคอร์สหลักแล้ว ก็จะมีคอร์สพิเศษอื่น ๆ ที่จัดนอกสถานที่ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่ก็ไม่แพง ปกติจะอยู่ที่ประมาณ 100 บาท


สมัครในทีม SRIKRUNG 168 แล้วจะมีเครื่องมือในการเรียนรู้ และเครื่องมือในการทำงานอะไรบ้าง

1. Line Group ของทีม สามารถเข้าไปเรียนรู้และปรึกษาการทำงานกับสมาชิกที่มีประสบการณ์

2. Facebook Group ของทีม เพื่อเข้าไปศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้ตลอดเวลา

3. Web Site ของทีม เพื่อเข้าไปศึกษาหาความรู้ได้เช่นกัน

4. เว็บไซต์ขาย และขยายงานส่วนตัว สำเร็จรูป ไม่ต้องสร้างเอง รองรับสำหรับคนที่อยากทำงานแบบออนไลน์

5. ประชุมทีมออนไลน์ผ่าน Line Group กรณีที่ใครสามารถเข้าร่วมได้ เพื่อพัฒนาความรู้ในการทำงาน


สมัครเข้ามาแล้วจะเลือกขาย หรือขยายทีมงานดี

พี่เม่นมีไกด์ให้ 3 ข้อดังนี้นะครับ

1. ถ้าหากว่าเราไม่มีงานทำ เดือดร้อนเงิน ต้องการใช้เงินด่วน พี่เม่นแนะนำว่าต้องใช้วิธีขายเพราะเป็นวิธีที่ได้เงินด่วน และได้เงินมากที่สุด แต่ไม่ยั่งยืนเหมือนกับการสร้างทีมงาน และเราที่เข้ามาใหม่ก็ยังไม่มีบัตรนายหน้า แต่พี่เม่นก็มีวิธีช่วย โดยการแนะนำลูกค้าให้พี่เม่นเป็นผู้ขายให้ หลังจากนั้นเราก็หาความรู้และสอบบัตรนายหน้าให้ได้เพื่อที่จะขายด้วยตนเอง


2. ถ้าหากว่าเราพอจะมีรายได้ประจำอยู่ แต่ก็ตึงมือ ต้องการรายได้เสริมในปัจจุบันบ้าง และสามารถที่จะลงทุนในอนาคตได้บ้าง พี่เม่นแนะนำว่า ให้ขายผสมกับการขยายทีมงาน เช่นเดียวกันเรายังไม่มีบัตรนายหน้า วิธีการขายก็ต้องแนะนำลูกค้าให้พี่เป็นเป็นผู้ช่วยขายให้เช่นกัน ส่วนที่เหลือเราก็แนะนำสมาชิกซื้อใช้ส่วนนึง และแนะนำทีมงานอีกส่วนหนึ่งไว้เป็นรายได้ในอนาคต หลังจากนั้นเราก็หาความรู้และสอบบัตรนายหน้าให้ได้


3. ถ้าหากว่าเรามีรายได้ประจำอยู่แล้ว พอกินพอใช้ ไม่ได้รู้สึกตึงมือแต่อย่างใด พี่เม่นแนะนำให้เราใช้วิธี แนะนำสมาชิกซื้อใช้ ผสมกับการแนะนำทีมงานไปเลย ไม่ต้องขาย เพื่อเป็นการสร้างฐานรายได้ให้กับเราในปีต่อ ๆ ไป และระหว่างนั้นเราก็ศึกษาหาความรู้ เพื่อเตรียมตัวสอบบัตรนายหน้าให้ผ่าน วิธีนี้ในช่วงแรกจะมีค่าตอบแทนน้อยหน่อย เหมือนเป็นการปลูกต้นไม้ที่จะต้องคอยดูแลรักษาต้นกล้าให้เติบโตเป็นต้นไม้ที่แข็งแรง เมื่อทำอย่างต่อเนื่องปีต่อ ๆ ไปรายได้จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจนในที่สุดก็จะแตะหลักแสนได้ รายได้จาก ตัวอย่างด้านล่างทุกคนใช้วิธีการแนะนำสมาชิกผสมกับสร้างทีมงานทั้งหมด


ตัวอย่างผู้ที่มีรายได้สูงสุด 10 คนแรก ระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคม 2562


AM00001789 | ทิพย์วิจิตร | 626,921.11

AM00010523 | โอเคดี อินชัวร์ โบรคเกอร์ | 315,968.47

AM00000040 | ทีเอ็มซี บิสสิเนส กรุ๊ป | 303,873.84

AM00002204 | บีเอสเค สมาร์ท กรุ๊ป | 225,394.12

AM00015492 | บิสซิเนส อินเตอร์ กรุ๊ป | 219,161.99

AM00047871 | ณัทรชัยนที พรพรรณรัช | 190,589.96

AMv00032011 | สุจริต ควรผดุง | 156,853.00

AM00000283 | วิโรจน์ เกตุประยูร | 133,310.83

AM00015288 | ศศิวิมล ศุภธนพัฒน์ | 121,727.67

AM00024819 | ธรรมพล ประภาสัย | 118,892.49




 
 


สนใจสมัครร่วมทีมงานเดียวกับพี่เม่น

ติดต่อได้ที่ Line ID : srikrung168 Line : http://line.me/ti/p/~srikrung168

หรือโทร 0-654-088-088


ใบสมัครออนไลน์ สมัครเป็นทีมงานติดตัวพี่เม่น https://www.srikrungexpo.com/k25655


ดู 3,068 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page