P'MEN
- 21 ก.พ. 2563
- ยาว 1 นาที

วิธีการพิจารณาเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์

อัปเดตเมื่อ 2 ธ.ค. 2563

จะเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์กับบริษัทไหนดี?

เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิต ที่ลูกค้ามักจะถาม ถ้าหากถามคนขายมันก็ต้องมีแอบเข้าข้างตัวเองหน่อย ๆ ว่า ก็ประกันภัยรถยนต์ของบริษัทที่เราถืออยู่นี่แหละครับดีเราจึงเลือกมาขาย แต่จะดีในด้านใดนั้นเป็นอีกเรื่องนึง ซึ่งลูกค้าหลายคนมักจะเลือกจากราคาที่ต้องจ่าย ขอเอาที่ถูกที่สุด และไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งอาจจะได้ของที่ถูกที่สุดจริง แต่นั้นอาจจะไม่ได้สิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ถ้าให้ลูกค้าพิจารณาเพื่อให้ได้ประกันภัยที่คุ้มค่าที่สุด ผมมีแนวทางมาให้คร่าว ๆ แต่ว่าจะเรียงลำดับ และให้น้ำหนักกับเกณฑ์ข้อไหนมากน้อยเท่าไหร่ อันนี้อยู่ที่ดุลยพินิจของลูกค้าเองครับ

1. เปรียบเทียบความคุ้มครองทั้ง 3 ส่วน

ในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์จะมีความคุ้มครองอยู่ 3 ส่วนได้แก่

1.1 ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ซึ่งก็คือคู่กรณีของเรานั่นเอง โดยบริษัทประกันภัยจะให้ความคุ้มครองถึง ชีวิต ร่างกาย และอนามัย รวมถึงทรัพย์สินของคู่กรณี ตัวเลขที่แสดงคือความคุ้มครองที่บริษัทประกันภัยเป็นผู้ดูแล แต่หากมีความเสียหายมากกว่านั้น นั่นคือส่วนที่เราจะต้องรับผิดชอบเพิ่มเติมครับ

1.2 รถยนต์เสียหาย สูญหาย ไฟไหม้ คือส่วนที่บริษัทประกันภัยให้ความคุ้มครองกับรถยนต์ของเรา มีมูลค่าเพียงพอ หรือมีเงื่อนไขพิเศษอะไรหรือไม่

1.3 ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย คือความคุ้มครองต่อ ชีวิต ร่างกาย และอนามัย ของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงการประกันตัวผู้ขับขี่ด้วย ก็ต้องเปรียบเทียบว่าเค้าให้ความคุ้มครองมากน้อยแค่ไหน

2. เปรียบเทียบความมั่นคงของบริษัท

ข้อนี้เราไม่สามารถเข้าไปรู้เบื้องลึกของแต่ละบริษัทได้ แต่เราก็พอจะมีวิธีการสังเกตอย่างง่าย ๆ โดยการ

2.1 ดูส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทประกันภัย ยิ่งส่วนแบ่งมากก็แสดงว่ามีผู้ให้ความนิยมใช้บริการมากเราก็สบายใจได้ในระดับหนึ่ง โดยสามารถค้นใน Google ด้วยคำว่า “ส่วนแบ่งการตลาด ประกันวินาศภัย” หรือคลิก ที่นี่ ได้เลยครับ

แต่ประกันวินาศภัยมีหลายประเภท เพราะฉะนั้นดูดี ๆ ว่าข้อมูลที่เราเห็นนั้นเป็นแบบรวมทุกประเภท หรือเป็นแบบแยกประเภท

2.2 ดูงบการเงินของบริษัทประกันภัย ซึ่งสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทราวงพาณิชย์ https://datawarehouse.dbd.go.th/index วิธีนี้ก็คงจะทำได้เฉพาะผู้ที่ดูงบการเงินเป็นเท่านั้นครับ

3. ตรวจสอบความคิดเห็นของผู้ใช้บริการ

อันนี้เป็นวิธีคลาสสิคเลย และคิดว่าหลาย ๆ คนก็ทำอยู่ นั่นก็คือสอบถามตามแหล่งชุมชนในโซเชียลมีเดียผู้ใช้รถต่าง ๆ รวมถึงอาจจะใช้วิธีค้นหาใน Google โดยพิมพ์ ชื่อบริษัท ตามด้วยชื่อเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งชุมนมชาวเน็ตก็ได้

แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ เหตุการณ์ที่มีการแสดงความคิดเห็นกันนั้นเป็นเพียงบางส่วนที่เกิดขึ้นกับคนหนึ่งคนที่ไปเจอกับการบริการของพนักงานส่วนหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องเจอการบริการแบบเดียวกันนี้

4. ดูช่วงราคาที่เราสามารถรับได้

แต่ละคนมีงบสำหรับซื้อประกันภัยรถยนต์ไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นเราก็ตั้งงบประมาณเป็นช่วงราคาที่เรารับได้ แล้วดูว่ามีแพคเกจใดของบริษัทไหนที่อยู่ในช่วงงบประมาณนี้ให้เลือกบ้าง อย่าเลือกจากราคาที่ถูกที่สุด แต่ให้เลือกจากราคาที่คุ้มค่าที่สุด

ราคาที่คุ้มค่า คือ ราคาที่ให้ความคุ้มครองที่ดี ให้บริการโดยบริษัทที่มีความมั่นคงน่าเชื่อถือ และมีบริการที่ดี มีชื่อเสียเรื่องการบริการไม่มากนัก เมื่อพิจารณาราคาที่คุ้มค่าแล้ว อาจจะไม่ใช่แพคเกจที่ราคาถูกที่สุด หรือแพงที่สุดก็เป็นได้

ในเรื่องของการตรวจสอบราคา หากเช็คราคากับศรีกรุงโบรคเกอร์จะได้รับใบเสนอราคาที่เป็นราคาเต็ม แต่หากสมัครเป็นสมาชิกของศรีกรุงโบรคเกอร์ด้วย จะได้สิทธิ์ซื้อประกันภัยรถยนต์ใช้เองในราคาเดียวกับตัวแทน ส่วนเราจะได้รับส่วนลดมากน้อยแค่ไหนจะมีความแตกต่างกันในแต่ละบริษัทประกันภัย และประเภทของประกันภัยที่ซื้อ ยกตัวอย่างเช่น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะได้รับส่วนลด 5%-12% จากเบี้ยประกันภัยสุทธิ

เช่น เบี้ยประกันภัยสุทธิ 10,000 บาท ได้รับส่วนลด 10% เท่ากับได้รับส่วนลด 1,000 บาท

เราก็เอาส่วนลดที่ได้ของแต่ละบริษัทมาเป็นข้อมูลสำหรับพิจารณาเรื่องราคาด้วยอีกส่วนหนึ่ง

5. ซ่อมห้างหรือซ่อมอู่ที่ไหนได้บ้าง

บางทีก็มีลูกค้าที่เลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ซ่อมห้าง เพราะเข้าใจว่าจะเข้าซ่อมศูนย์ไหนก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วแต่ละศูนย์เป็นตัวแทนจำหน่ายที่ซื้อสิทธิ์มาจากบริษัทแม่อีกที ซึ่งมีความอิสระในการทำสัญญากับบริษัทประกันภัย ดังนั้น หากเราซื้อรถยนต์พร้อมประกันภัยกับศูนย์นึง อาจจะเข้าไปเครมไม่ได้กับอีกศูนย์ก็เป็นได้ ดังนั้น หากเรามีความสะดวกที่จะเข้าศูนย์ไหน ให้ตรวจสอบกับศูนย์นั้นด้วยว่ารับเครมของบริษัทประกันภัยอะไรบ้าง

นอกจากซ่อมห้างแล้ว การซ่อมอู่ก็ต้องเช็คเหมือนกันว่าอู่ที่เราไว้วางใจและสะดวกที่จะใช้บริการเค้ารับเครมกับบริษัทประกันภัยอะไรบ้าง และเพื่อความสะดวกสำหรับลูกค้า ศรีกรุงโบรคเกอร์ได้จัดทำเว็บไซต์ https://www.wecanfix.co.th/ เพื่อรวบรวมข้อมูลการบริการ บริษัทประกันภัยที่รับเครม พร้อมกับตรวจสอบมาตรฐานของอู่ใกล้บ้านทั่วประเทศ เราก็สามารถใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจเลือกซื้อประกันภัยได้อีกส่วนหนึ่ง