P'MEN
- 21 ก.พ. 2563
- ยาว 1 นาที

ต่อประกันภัยรถยนต์อย่างไรให้ได้ราคาถูก

อัปเดตเมื่อ 2 ธ.ค. 2563

จะต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ปีที่ 2, 3, 4 ใช้ของบริษัทอะไรดี?

เป็นคำถามที่จะได้พบเจอกันบ่อย ๆ ในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ต่าง ๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเราไม่สามารถฟันธงคำตอบได้เลยทันที สาเหตุเพราะเงื่อนไขการใช้รถยนต์ และเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยแต่ละบริษัทจะมีความแตกต่างกันตามช่วงเวลา เรียกได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเหมือนราคาตั๋วเครื่องบินครับ

แต่เรามีวิธีการหาคำตอบได้ด้วยการหาข้อมูลราคาจากหลาย ๆ แหล่งโดยควรจะทำประมาณ 1 เดือนก่อนประกันหมดอายุ เพราะจะได้ราคาที่อัพเดทที่สุด และบางขั้นตอนจะต้องใช้เวลากว่าจะได้คำตอบ หากเหลือเวลาเพียง 7 วันหรือน้อยกว่า แนะนำว่าต่อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 กับบริษัทเดิมจะดีกับเราที่สุด

สิ่งที่ควรเช็คเพื่อนำมาใช้พิจารณามีดังนี้

1. ตรวจสอบเบี้ยต่ออายุกับบริษัทประกันภัยเดิม

ปกติแล้วบริษัทประกันภัยจะมี “ใบแจ้งเตือนต่ออายุ” ส่งมาให้เราทราบล่วงหน้าว่าปีถัดไปเราจะต้องจ่ายค่าประกันภัยรถยนต์ในราคาเท่าไหร่ ซึ่งอาจจะส่งมาเร็วหรือช้าแต่ละบริษัทก็จะแตกต่างกัน แต่ถ้าเรายังไม่ได้รับเอกสาร เราก็สามารถสอบถามได้จากบริษัท, ตัวแทน, หรือนายหน้าเดิมที่เราเคยซื้อก็ได้

ราคาที่ได้มาจะเป็นราคา ณ เวลาที่ออกเอกสารนั้นครับ แต่ถ้าหากเรามีเครมเป็นฝ่ายผิดหลังจากที่เค้าแจ้งราคามา ก็เป็นไปได้ว่าเบี้ยต่ออายุก็อาจจะเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง 2. ลองเช็คเบี้ยแบบโอนโค้ดกับนายหน้าคนใหม่

ในระหว่างที่เรากำลังเช็คราคาจากผู้ขายคนเดิมตามข้อ 1 เราสามารถเช็คราคาเบี้ยต่ออายุกับบริษัทประกันภัยเดิม แต่เปลี่ยนเป็นผู้ขายคนใหม่ได้ด้วย ซึ่งเราเรียกงานประเภทนี้ว่า “งานโอนโค้ด” ข้อดีคือ เราจะได้โอนประวัติดีที่เรามีอยู่มาด้วย ซึ่งจะได้ราคาที่แตกต่างกันออกไป อาจจะมากกว่า เท่ากัน หรือน้อยกว่าก็เป็นไปได้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าผู้ขายรายนั้นได้รับค่าคอมมิชชั่นจากบริษัทประกันภัยเท่าใด และผู้ขายแต่ละรายจะได้รับไม่เท่ากัน จึงให้ราคากับลูกค้าได้ไม่เท่ากัน การเช็คเบี้ยโอนโค้ดนี้เป็นเพียงการเช็คราคากันเท่านั้น ยังไม่ถือว่าเป็นการซื้อขาย

อย่างไรก็ตาม การโอนโค้ดไม่สามารถทำได้ทุกกรณีขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันภัย และเงื่อนไขของไฟแนนซ์ที่เจ้าของรถใช้บริการอยู่

การเช็คเบี้ยแบบโอนโค้ด บางบริษัทสามารถเช็คได้ทันที แต่บางบริษัทจะต้องส่งเอกสารก่อนเพื่อยืนยันว่าเจ้าของรถมีความยินยอม และประสงค์จะเปลี่ยนผู้ขายจริง ๆ

เอกสารที่ใช้ในการเช็คเบี้ยโอนโค้ด ได้แก่

เอกสารโอนย้ายตัวแทน (ขอได้จากผู้ขายใหม่)

สำเนาบัตรประชาชน (ผู้เอาประกันภัย)

3. ลองเช็คเบี้ยบริษัทประกันภัยอื่น ๆ

เราสามารถให้ผู้ขายรายใหม่ช่วยเช็คเบี้ยโอนโค้ด พร้อมกับเช็คเบี้ยบริษัทประกันภัยใหม่ให้เราไปพร้อมกัน เพื่อใช้ข้อมูลประกอบการพิจารณาอีกทางหนึ่ง เพราะอาจจะเป็นข้อเสนอที่ดีกว่าการต่อประกันภัยกับบริษัทประกันภัยเดิมก็เป็นได้

เอกสารที่ใช้ในการเช็คเบี้ยกับบริษัทประกันภัยอื่น ๆ คือ “กรมธรรม์ประกันภัยเดิม” เพราะเจ้าหน้าที่จะได้ดูความคุ้มครองเดิมที่มีอยู่ และราคา เพื่อหาแพคเกจประกันภัยที่เหมาะสมให้กับเราได้ดียิ่งขึ้น

เมื่อเราได้ราคาจากหลายส่วนแล้วค่อยพิจารณาอีกทีว่าจะต่อประกันภัยกับบริษัทไหน และผู้ขายรายใด

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

ก่อนจะส่งเอกสารให้ผู้ขายรายใหม่เช็คราคาให้ เราอาจจะเช็คราคาด้วยตนเองคร่าว ๆ ได้ก่อนที่ http://www.724-insure.com เพื่อดูว่าเราสนใจประกันภัยในช่วงราคาไหน ของบริษัทอะไร เพื่อแจ้งความประสงค์กับผู้ขายได้ชัดเจนขึ้น

ข้อควรรู้ก่อนต่อประกันภัย

1. ประกันภัยรถยนต์ปีแรกที่ออกมาจากศูนย์รถยนต์ อาจเป็นประกันภัยกลุ่มที่ดีลเล่อร์ซื้อมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ได้ราคาถูกเป็นพิเศษ ดังนั้น เมื่อต่ออายุปีที่ 2 ราคาอาจจะสูงขึ้นโดยที่เราไม่เคยเครมเลยก็ได้

2. อย่าพิจารณาเฉพาะราคาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาเรื่องอื่นควบคู่ไปด้วย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ “วิธีพิจารณาเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์”

3. ถ้าเรามีเครมเป็นฝ่ายผิดหลังจากที่ได้ราคาต่ออายุมา เป็นไปได้ว่าเบี้ยประกันอาจจะปรับขึ้นและถูกเรียกเก็บในภายหลัง

4. การซื้อประกันแบบโอนโค้ด ประวัติของเราจะตามมาด้วยทำให้ไม่ต้องเริ่มนับส่วนลดประวัติดีใหม่ และไม่ต้องถ่ายรูปรถใหม่

5. การเปลี่ยนบริษัทประกันภัย จะต้องเป็นการเริ่มต้นนับ 1 ใหม่อีกครั้ง ราคาที่ซื้อจะเป็นราคาของปีแรก ประวัติดีก็ต้องเริ่มใหม่ และต้องถ่ายรูปรถใหม่ จึงต้องเครมกับบริษัทเดิมให้เสร็จเรียบร้อย ให้รถมีสภาพพร้อมที่จะถ่ายรูป